ผู้สมัครสมาชิกสภาเขตฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งท้องถิ่นฮ่องกงเมื่อวานนี้ (24 พฤศจิกายน) โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยมสามารถคว้าชัยชนะใน 17 เขตเลือกตั้ง จากทั้งหมด 18 เขต กวาดที่นั่งในสภาเขตรวม 201 ที่นั่ง จาก 241 ที่นั่งที่มีการประกาศผลเบื้องต้นไปแล้ว ขณะที่ผู้สมัครฝ่ายสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ได้ไปเพียง 28 ที่นั่งเท่านั้น
การเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางวิกฤตการเมืองในฮ่องกงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือน จากชนวนเหตุที่รัฐบาลผลักดันกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งทำให้เกิดการลุกฮือครั้งใหญ่ของชาวฮ่องกง
แต่เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 3 ล้านคน คิดเป็นกว่า 71% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรฮ่องกง ซึ่งการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างล้นหลามครั้งนี้ถูกเปรียบเป็นการลงประชามติเชิงสัญลักษณ์ และส่งสัญญาณถึงรัฐบาลฮ่องกงและจีนว่าชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ต้องการประชาธิปไตย
ขณะที่การพ่ายแพ้อย่างขาดลอยของผู้สมัครฝ่ายหนุนจีนแผ่นดินใหญ่ ถือเป็นอีกบททดสอบครั้งใหญ่ของ แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันจากรอบด้าน ถึงแม้รัฐบาลจีนและประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนเธอให้ทำหน้าที่ต่อไปก็ตาม
หนึ่งในผู้สมัครที่ถูกจับตามากเป็นพิเศษ และสามารถคว้าเก้าอี้ในสภาเขตจากการเลือกตั้งครั้งนี้คือ จิมมี ชาม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำกลุ่ม Civil Human Rights Front โดยก่อนหน้านี้เขาเคยถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ 2 ครั้ง
หลังทราบผลเลือกตั้ง ชามให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความพิเศษ เพราะเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยกับฝ่ายสนับสนุนผู้มีอำนาจเดิมอย่างเป็นทางการ
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีการชิงชัยทั้งหมด 452 ที่นั่ง โดยก่อนการเลือกตั้ง โจชัว หว่อง อดีตแกนนำนักเคลื่อนไหวกลุ่มปฏิวัติร่มถูกตัดสิทธิลงสมัคร
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: