วานนี้ (17 ตุลาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจของอังกฤษได้เร่งสืบสวนกรณีที่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยชาวฮ่องกง ถูกกลุ่มชายที่ออกมาจากสถานกงสุลจีนรุมทุบตี หลังเปิดฉากการประท้วงในเมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ตุลาคม) กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีชื่อว่ากองกำลังป้องกันชนพื้นเมืองฮ่องกง (Hong Kong Indigenous Defence Force) ได้จัดการประท้วงหน้าสถานกงสุลในเมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เกิดขึ้นในวันเดียวกัน ณ กรุงปักกิ่ง
โดยวิดีโอของเหตุการณ์ชุลมุนในครั้งนี้เผยให้เห็นว่า มีกลุ่มชายไม่ทราบฝ่ายเดินออกมาจากสถานกงสุลและปะทะกับผู้ชุมนุมด้านนอก โดยได้ทำลายโปสเตอร์ประท้วงที่ผู้ชุมนุมนำมาตั้งไว้ที่ทางเท้า ก่อนเกิดเสียงตะโกนดังลั่น ขณะที่ผู้คนรีบวิ่งกรูกันไปที่ประตูทางเข้า ขณะนั้นมีผู้ประท้วงชาวฮ่องกงรายหนึ่งถูกลากผ่านประตูเข้าไปในบริเวณสถานกงสุล และถูกกลุ่มชายดังกล่าวรุมทุบตี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นจะเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และช่วยดึงชายคนดังกล่าวให้หลุดออกมาได้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มชายไม่ทราบฝ่ายที่ออกมาจากสถานกงสุลจีนนั้นมีอย่างน้อย 8 คน ซึ่งบางคนสวมหมวกกันน็อกและเสื้อกั๊กป้องกัน และภายหลังเกิดเหตุปะทะเสร็จก็ได้เดินกลับเข้าไปในตัวอาคาร โดยแม้สถานกงสุลจีนจะตั้งอยู่บนแผ่นดินอังกฤษ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้หากไม่ได้รับอนุญาต
บ็อบ หนึ่งในผู้ประท้วงเปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่า ‘ชาวจีนแผ่นดินใหญ่’ ออกมาจากสถานกงสุลและทำลายโปสเตอร์รูปสีจิ้นผิง โดยขณะที่บ็อบและผู้ประท้วงคนอื่นๆ พยายามจะหยุดกลุ่มชายดังกล่าว เขาก็ถูกลากตัวเข้าไปในสถานกงสุล และถูกรุมทุบตีอย่างหนัก ก่อนที่ตำรวจจะมาช่วยดึงเขาออกไปจากเหตุชุลมุนได้
ด้านโฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นน่ากังวลอย่างยิ่ง แต่ขอไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เพราะอาจเป็นการไม่เหมาะสมเนื่องจากตำรวจกำลังอยู่ระหว่างสอบสวน ขณะที่สถานกงสุลจีนระบุว่า ผู้ประท้วงได้แสดงโปสเตอร์ภาพที่เป็นการดูหมิ่นประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลได้ขอร้องให้ผู้ประท้วงไปจัดการประท้วงที่ถนนฝั่งตรงข้ามแล้ว
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่จีนกำลังอยู่ในระหว่างการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งจะปูทางให้สีจิ้นผิงครองอำนาจผู้นำประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 โดยก่อนหน้านี้ สีจิ้นผิงกล่าวว่า เขาจะเปลี่ยนสถานการณ์ในฮ่องกงจาก ‘ความวุ่นวาย’ สู่ ‘การปกครองที่เป็นระเบียบ’ ซึ่งหมายถึงการปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยของจีนที่นั่น
แฟ้มภาพ: Lindsey Parnaby / PA Images via Getty Images
อ้างอิง: