วานนี้ (10 พฤษภาคม) สภานิติบัญญัติฮ่องกงมีมติรับรองการแก้ไขกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ทนายความต่างชาติรับงานว่าความในคดีความมั่นคงแห่งชาติ โดยถือเป็นการตั้งข้อจำกัดที่กลุ่มนักวิจารณ์มองว่า จะบ่อนทำลายการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและสิทธิของจำเลยในการเลือกทนายความสำหรับคดีความมั่นคง
การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวยังเป็นการตอกย้ำคำตัดสินของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติของจีน (Standing Committee of the National People’s Congress: NPCSC) เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งกำหนดให้ศาลพิพากษาของฮ่องกงต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้นำฮ่องกง ก่อนที่จะอนุญาตให้ทนายความต่างชาติสามารถว่าความในคดีความมั่นคงแห่งชาติได้
โดยคำตัดสินของ NPCSC มีขึ้นหลัง จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ได้ยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณา ภายหลังกระทรวงยุติธรรมฮ่องกงพยายามขัดขวาง ทิโมธี โอเวน ทนายความชาวอังกฤษ จากการว่าความปกป้อง จิมมี ไล เจ้าพ่อสื่อและนักเคลื่อนไหววิจารณ์รัฐบาลจีนที่ถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหา ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งข้อหารวมถึงสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติและยุยงปลุกปั่น
ที่ผ่านมาการใช้ทนายความต่างชาติทั้งฝ่ายอัยการและฝ่ายจำเลยเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีตามหลักนิติธรรมในฮ่องกงมาอย่างยาวนาน และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทนายความต่างชาติบางส่วนยังได้มีส่วนร่วมในการปกป้องผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลฮ่องกงที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่
ขณะที่การแก้ไขกฎหมายล่าสุดที่ผ่านการรับรองอย่างเป็นเอกฉันท์ กำหนดให้ทนายความต่างชาติไม่สามารถมีส่วนร่วมในคดีความมั่นคงแห่งชาติได้ เว้นแต่ผู้นำฮ่องกงจะมีเหตุผลเพียงพอที่เชื่อว่า การมีส่วนร่วมของทนายความนั้นไม่ขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ และจะมีการตัดสินเป็นกรณีไป
ทางด้าน พอล หลั่ม รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความเห็นปกป้องการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว โดยบอกต่อสภานิติบัญญัติว่า ฮ่องกงมีที่ปรึกษาอาวุโสด้านกฎหมายมากกว่า 100 คน และทนายความกว่า 1,500 คน ดังนั้นจำเลยจึงสามารถเลือกตัวแทนทางกฎหมายที่เหมาะสมได้
“กฎหมายดังกล่าวสอดคล้องกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกงว่าด้วยการเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพ และไม่เป็นการลิดรอนสิทธิทางกฎหมายของประชาชน” หลั่มกล่าว
ภาพ: Miguel Candela / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
