ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงหลายพันคนนัดชุมนุม พร้อมโบกธงชาติสหรัฐฯ ในย่านใจกลางเมือง เพื่อเฉลิมฉลองเมื่อวานนี้ (28 พฤศจิกายน) ซึ่งตรงกับวันขอบคุณพระเจ้าของสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง ซึ่งเปรียบเหมือนสัญลักษณ์สนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในฮ่องกง
ก่อนหน้านี้กฎหมายสิทธิมนุษยชนฯ ฮ่องกง ผ่านความเห็นชอบทั้งในสภาผู้แทนราษฎรที่มี ส.ส. เดโมแครตครองเสียงข้างมาก และวุฒิสภาที่มี ส.ว. รีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ ก่อนที่ทรัมป์จะลงนามรับรองเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยทรัมป์ชี้แจงว่า การออกกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้คณะผู้นำจีน ฮ่องกง และผู้แทนฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออกจากความขัดแย้ง
ซันนี ชุง หนึ่งในแกนนำผู้ประท้วงให้สัมภาษณ์ว่า มันสมเหตุสมผลที่จะออกมาเดินขบวนแสดงความขอบคุณสภาคองเกรสสหรัฐฯ และประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว
เขากล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งกับความพยายามของชาวอเมริกันที่สนับสนุน และยืนเคียงข้างฮ่องกง และไม่เลือกอยู่ฝั่งจีน” พร้อมเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ กฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ประเมินระดับสิทธิเสรีภาพในการปกครองตนเองของฮ่องกงเป็นประจำทุกปี และมีบทลงโทษสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเมิดสิทธิพลเรือน รวมทั้งการตัดสิทธิพิเศษทางการค้าที่สหรัฐฯ มอบให้ฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของโลก นอกจากนี้สภาคองเกรสยังผ่านร่างกฎหมายอีกฉบับ ซึ่งมีข้อบังคับห้ามการส่งออกอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนให้กับตำรวจฮ่องกง ประกอบด้วย แก๊สน้ำตา, สเปรย์พริกไทย, กระสุนยาง และปืนช็อตไฟฟ้า
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
