การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงยังส่อเค้าลางว่าจะไม่สามารถคลี่คลายได้ในเร็ววันนี้ หลังยืดเยื้อมานานต่อเนื่องกว่า 3 เดือนเต็ม ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (24 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตาเป็นครั้งแรกในรอบ 10 วัน พร้อมใช้กระบองเข้าควบคุมความสงบผู้ประท้วงที่รวมตัวกันบริเวณย่านดอร์เซต กวนตง พื้นที่ฝั่งตะวันออกของเกาลูน
กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยหลายพันคนได้เดินขบวนเคลื่อนพลมายังเขตกวนตงในช่วงเที่ยงที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น เพื่อขอความชัดเจนจากรัฐบาลกรณีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และการติดตั้งเสาไฟอัจฉริยะที่เชื่อกันว่าทางการจีนมีความพยายามจะสอดแนมพลเมืองฮ่องกงด้วยระบบจดจำใบหน้าและกล้องวงจรปิด
ทั้งนี้ผู้ชุมนุมแนวหน้าได้นำแบริเออร์และไม้ไผ่มาตั้งเป็นแนวกีดขวางเส้นทางการจราจร ณ จุดดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องส่งกำลังมารื้อถอนแนวกั้นก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดฉากปะทะกัน โดยฝั่งผู้ชุมนุมได้เริ่มขว้างปาหิน ขวดน้ำ และสิ่งของ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบโต้ด้วยการเริ่มยิงแก๊สน้ำตา สเปรย์พริกไทย และกระบองเข้าตีผู้ชุมนุมเพื่อยุติเหตุความวุ่นวาย
ไรอัน นักเรียนชาวฮ่องกงวัย 19 ปีได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า “ผมเข้าใจว่าความสงบและสันติไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ รัฐบาลไม่ตอบรับการชุมนุมประท้วงอย่างสงบของพวกเรา และหากผมถูกจับกุม นั่นก็เป็นเพราะว่าผมได้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม”
ขณะที่กรณีของ ไซมอน เฉิง (Simon Cheng) เจ้าหน้าที่กงสุลสหราชอาณาจักรประจำฮ่องกง ที่ก่อนหน้านี้ถูกทางการจีนกักตัวไว้เป็นระยะเวลานานกว่า 2 สัปดาห์ ด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีนด้านการจัดการความปลอดภัยสาธารณะ ล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วว่าเฉิงได้ถูกปล่อยตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อย และกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับมายังฮ่องกง
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
