เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในฮ่องกงดำเนินต่อเนื่องสู่สัปดาห์ที่ 6 เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.) โดยตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในย่านหว่านไจ๋ ขณะที่ช่วงบ่ายเกิดเหตุรุนแรงขึ้น เมื่อม็อบสวมหน้ากากได้พกอาวุธบุกเข้าทำร้ายผู้คนในสถานีรถไฟย่านหยวนหล่าง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 45 ราย โดยหนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส
คลิปวิดีโอที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นกลุ่มชายสวมเสื้อยืดสีขาวกระจายกันทำร้ายผู้คนบนชานชาลาและภายในตู้โดยสารขบวนรถไฟ อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
ขณะที่ South China Morning Post รายงานว่าผู้ที่ตกเป็นเป้าโจมตีเป็นกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านรัฐบาล โดยในคลิปวิดีโอบางส่วนเผยให้เห็นชายชุดขาวใช้ไม้สุ่มฟาดผู้ประท้วงที่สวมชุดดำและถือร่มอันเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านรัฐบาล
คณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะฮ่องกงเป็นสังคมที่ปกครองด้วยหลักนิติธรรม
ก่อนหน้าเหตุการณ์รุนแรงในสถานีรถไฟ MTR กลุ่มผู้ประท้วงได้นัดชุมนุมเดินขบวนไปยังย่านเซ็นทรัล ซึ่งเป็นเขตที่ตั้งที่ทำการรัฐบาล แต่ตำรวจได้สกัดไม่ให้ผู้ประท้วงเคลื่อนตัวออกจากย่านหว่านไจ๋ โดย BBC รายงานว่าทางการฮ่องกงได้วางกำลังตำรวจไว้ควบคุมสถานการณ์มากถึง 4,000 นาย
เหตุประท้วงทวีความตึงเครียดขึ้นเมื่อมีการเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม ก่อนที่ตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายกลุ่มผู้ประท้วง
สำหรับตัวเลขผู้ประท้วงเมื่อวานนี้ ทางกลุ่มผู้จัดระบุว่ามีผู้เข้าร่วมมากกว่า 430,000 คน ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีจำนวนประมาณ 138,000 คน โดยนอกจากข้อเรียกร้องให้ฉีกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างถาวรแล้ว ผู้ประท้วงยังต้องการให้ แคร์รี ลัม ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะบริหารฮ่องกงด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: