ผู้ประท้วงหลายพันคนในฮ่องกงออกมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อวานนี้ (4 ตุลาคม) หลัง แคร์รี ลัม ผู้นำฮ่องกงใช้อำนาจพิเศษ ประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินสมัยอาณานิคมในการห้ามผู้ชุมนุมสวมหน้ากากเพื่อยุติเหตุรุนแรง
กฎแบนหน้ากากในพื้นที่ชุมนุมมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้ประท้วงจำนวนมากไม่พอใจกับกฎหมายดังกล่าว ส่งผลให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น ขณะที่เหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจเมื่อวานนี้ มีผู้ถูกยิงบาดเจ็บ 1 คน
ด้านตำรวจฮ่องกงออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ตำรวจใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วงจริง แต่ชี้แจงว่าทำเพื่อป้องกันตัว หลังตกอยู่ในอันตรายจากการถูกผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่รุมทำร้าย ซึ่งรวมถึงการใช้ระเบิดเพลิงด้วย
การประท้วงเมื่อวานนี้มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน โดยมีคนจำนวนมากเลิกงานก่อนเวลาและออกมาชุมนุมปิดถนน จุดไฟเผาธงชาติจีน ตลอดจนทุบทำลายสถานีรถไฟใต้ดิน และร้านค้าต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้าและธนาคาร ขณะที่ตำรวจพยายามสลายผู้ชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา
ผลจากการชุมนุมประท้วงทำให้การรถไฟฮ่องกง (MTR) ประกาศระงับบริการรถไฟใต้ดินทุกขบวนทุกเส้นทางตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ (5 ตุลาคม) โดยโฆษกเผยกับ BBC ว่า การตัดสินใจงดให้บริการเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังผู้ประท้วงบุกทำลายสถานี ทำร้ายพนักงาน และมีรายงานการจุดไฟเผาขบวนรถไฟด้วย
ภาพ: Getty
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: