คณะบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเผย ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของฮ่องกงขยายตัวเพียง 0.6% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ สืบเนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนว่าเศรษฐกิจฮ่องกงอาจโตช้าลงอีกหากวิกฤตการประท้วงยังยืดเยื้อต่อไป
เมื่อเทียบกับไตรมาสแรก GDP ฮ่องกงหดตัวลง 0.3% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตรายไตรมาสที่ช้าที่สุดในรอบ 10 ปี สืบเนื่องจากยอดส่งออกสินค้าลดลงตามทิศทางการชะลอตัวในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการค้าในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่โพลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัว 1.5% ในไตรมาส 2
โฆษกรัฐบาลฮ่องกงระบุว่าเศรษฐกิจฮ่องกงกำลังเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในทิศทางขาลง ขณะที่การลงทุนโดยรวมก็หดตัวลง มีเพียงการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคที่ขยายตัวพอประมาณ
นักวิเคราะห์เตือนว่าแนวโน้มการเติบโตของฮ่องกงไม่สู้ดีนัก และอาจเลวร้ายลงอีกหากการประท้วงร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ดำเนินมานาน 2 เดือนยังไม่ยุติลง
จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่ง Capital Economics ให้ความเห็นกับ CNN ว่าสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนจะฉุดรั้งการขยายตัวของ GDP ฮ่องกงลงอีก หากการเจรจาระหว่างสองมหาอำนาจไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่เหตุประท้วงที่รุนแรงขึ้นได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของฮ่องกง และส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงหลายไตรมาสต่อจากนี้
ขณะที่ ทอมมี วู จาก Oxford Economics คาดว่าเศรษฐกิจฮ่องกงในไตรมาส 3 จะขยายตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้ทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ โดยคาดว่าตลอดทั้งปี GDP ฮ่องกงจะโตไม่ถึง 1% ขณะที่ปี 2018 ขยายตัว 3%
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: