ฮ่องกงประกาศห้ามผู้โดยสารจาก 153 ประเทศ หรือแทบจะเรียกได้ว่าเกือบทุกประเทศในโลก แวะพักหรือรอต่อเครื่อง (Transit) ที่สนามบินฮ่องกง ขณะที่จีนยกระดับมาตรการป้องกันโควิดก่อนโอลิมปิกฤดูหนาวเปิดฉากต้นเดือนหน้า
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฮ่องกงเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน โดยจีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพียงประเทศเดียวในโลกที่ยังคงเป้าหมายที่จะกำจัดโควิดให้หมดไปจากประเทศ หรือทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ ซึ่งฮ่องกงเองก็เดินตามจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยการใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโควิดที่เข้มงวดเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการกักตัวนานหลายสัปดาห์ การล็อกดาวน์แบบมีเป้าหมาย และการปูพรมตรวจหาเชื้อ
ฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลกของจีน แบ่งประเทศและดินแดนต่างๆ ออกเป็นกลุ่มๆ ตามความรุนแรงของการแพร่ระบาดในประเทศนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันมี 153 ประเทศถูกจัดกลุ่มอยู่ในกลุ่ม A และผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้จะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 21 วัน
สนามบินฮ่องกง ซึ่งเป็นฮับการบินอันดับต้นๆ ของโลกก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด ประกาศในวันศุกร์ (14 มกราคม) ว่า ผู้ที่ใช้เวลาในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาใน 153 ประเทศ จะถูกห้ามแวะพักหรือรอต่อเครื่องที่สนามบินฮ่องกง โดยมีผลตั้งแต่วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดี 8 ประเทศในกลุ่ม A ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ถูกห้ามไม่ให้เดินทางเข้าฮ่องกงอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งนี้ ฮ่องกงกำลังต่อสู้กับการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเริ่มมาจากลูกเรือของสายการบิน Cathay Pacific ที่ละเมิดกฎการกักตัวที่บ้านหลังจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ล่าสุด ฮ่องกงได้กลับมาประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงการปิดสถานออกกำลังกาย และการห้ามรับประทานอาหารภายในร้านหลังเวลา 18.00 น. ขณะที่ สายการบิน Cathay Pacific อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ปัจจุบัน Cathay Pacific ให้บริการเที่ยวบินเพียงไม่กี่เส้นทาง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาด และเที่ยวบินระยะไกลส่วนใหญ่ของสายการบินนั้นแวะพักที่ฮ่องกง ขณะเดียวกัน มาตรการกักตัวที่เข้มงวดทำให้สายการบินอื่นๆ ลดจำนวนเที่ยวบินไปฮ่องกง หรือเริ่มหลีกเลี่ยงการเดินทางทั้งหมดที่ต้องผ่านสนามบินฮ่องกง
เอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Financial Times ว่า การเห็นทั่วโลกพยายามควบคุมสายพันธุ์โอมิครอนอย่างยากลำบาก เป็นการตอกย้ำการตัดสินใจของฮ่องกงที่จะยึดมั่นในยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ต่อไป
“ผมคิดว่าไม่มีใครสามารถให้ไทม์ไลน์ที่แน่นอนสำหรับการยกเลิกข้อจำกัดด้านพรมแดนระหว่างประเทศในปีนี้” เขากล่าว
แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศเมื่อคืนวันศุกร์ว่า มาตรการป้องกันโควิดจะขยายออกไปอีกสองสัปดาห์จนพ้นเทศกาลตรุษจีน ซึ่งรวมถึงการยกเลิกการจัดงานแสดง และห้ามจัดงานเอิกเกริกต่างๆ เช่น งานชุมนุมของครอบครัวใหญ่ และงานเฉลิมฉลองที่ครึกครื้น
อย่างไรก็ดี ยังไม่ชัดเจนว่าการห้ามแวะพักหรือรอต่อเครื่องที่สนามบินฮ่องกงจะส่งผลกระทบต่อโอลิมปิกฤดูหนาวหรือไม่ โดยคาดว่าทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศต่างๆ จะเดินทางไปจีนผ่านฮ่องกงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่จะมีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้
สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวนี้เป็นรายแรกในสัปดาห์นี้ โดยอ้างแหล่งข่าวที่ระบุว่า มาตรการจำกัดการเดินทางล่าสุดของฮ่องกงจะไม่มีผลกับนักการทูต เจ้าหน้าที่ และนักกีฬาที่จะเข้าร่วมมหกรรมโอลิมปิก แต่แถลงการณ์ของสนามบินฮ่องกงเมื่อวันศุกร์ระบุว่า ไม่มีการยกเว้นให้ใครเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ประเทศจีนกำลังต่อสู้กับการระบาดของโควิดในหลายเมือง ซึ่งถือเป็นบททดสอบการเดินหน้ายุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวจะเปิดฉากขึ้นที่ปักกิ่ง
แม้มีสัญญาณว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาในเมืองซีอานเริ่มคลี่คลายลง แต่ขณะเดียวกัน ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในเมืองเทียนจิน ซึ่งเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับปักกิ่ง และสนามแข่งขันโอลิมปิกหลายแห่ง
นอกจากนี้ สายพันธุ์โอมิครอนยังได้แพร่กระจายจากเมืองเทียนจินไปยังเมืองอันหยาง ซึ่งมีประชากร 5.5 ล้านคน และเมืองต้าเหลียน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญอีกแห่งหนึ่ง โดยขณะนี้ทั้งสองเมืองถูกล็อกดาวน์แล้ว
ด้านศูนย์กลางทางการเงินของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้ ก็มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อสองรายในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นสายพันธุ์ใด ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางตอนใต้ของจีนด้วย
ภาพ: Katherine Cheng / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: