ฮอลลีวูดชัตดาวน์! ไม่มีนักแสดง ไม่มีบทภาพยนตร์ หลังการเจรจาระหว่างสตูดิโอใหญ่ ผู้เขียนบท และนักแสดง ประสบกับความล้มเหลว นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่ทั้งนักเขียนและนักแสดงผนึกกำลังสไตรก์เพื่อเรียกร้องสัญญาที่ดีขึ้น ขณะที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกว่า การหยุดงานประท้วง ซึ่งรวมถึงการหยุดแสดง หยุดเขียนบท และงดเดินสายโปรโมทภาพยนตร์ของเหล่านักแสดงที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ นั้น อาจลากยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้
นักแสดงและผู้เขียนบทของฮอลลีวูดนัดหยุดงานกันตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (14 กรกฎาคม) หลังจากค่ายหนังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG) พร้อมด้วยสหพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุแห่งอเมริกา (AFTRA) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสหภาพแรงงานนัดหยุดงานพร้อมกันนับตั้งแต่ปี 1960 หรือเมื่อ 63 ปีก่อน โดยครั้งนั้นมี โรนัลด์ เรแกน ที่ขณะนั้นยังเป็นนักแสดง เป็นผู้นำการประท้วง
สำหรับการนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ในครั้งนี้ได้เหล่าดาราดังอย่าง เมอรีล สตรีป, เบน สติลเลอร์ และ โคลิน ฟาร์เรล ออกมาแสดงตัวสนับสนุนด้วย
📍 ทำไมจึงประท้วง มีใครเกี่ยวข้องบ้าง?
การชัตดาวน์ทั่วทั้งอุตสาหกรรมเกิดขึ้นหลังจากนักเขียนและนักแสดงไม่สามารถตกลงกับสตูดิโอภาพยนตร์และบริษัทสตรีมมิงได้ ในเรื่องการแบ่งผลกำไรที่เป็นธรรมมากขึ้น เช่น การทำสัญญาค่าจ้างที่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ การแบ่งกำไรคงเหลือ (Residual Payment) ในยุคสตรีมมิง รวมไปถึงการเพิ่มการปกป้องสิทธิ์จากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
มี 3 ผู้เล่นหลักที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ได้แก่
สมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ (SAG) และสหพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุแห่งอเมริกา (AFTRA) รวมเรียกว่า SAG-AFTRA ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับสมาชิกมากกว่า 160,000 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงเหล่าเอลิสต์ของวงการฮอลลีวูดหรือดาราเบอร์ต้นๆ ของโลกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ทอม ครูซ, แองเจลินา โจลี หรือ จอห์นนี เดปป์ เป็นต้น ตลอดจนผู้ประสานงานการแสดงผาดโผน นักพากย์เสียง และนักแสดงตัวประกอบ
ส่วนสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (Writers Guild of America: WGA) เป็นสหภาพที่เป็นตัวแทนของนักเขียนในวงการภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์
และสมาพันธ์ผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ (Alliance of Motion Picture and Television Producers: AMPTP) เป็นตัวแทนของสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่ เช่น Disney และ Paramount สถานีโทรทัศน์ของอเมริกา เช่น Fox และ NBC และผู้ให้บริการสตรีมมิงยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix และ Amazon Prime Video
การถือกำเนิดขึ้นของบริการสตรีมมิงไม่เพียงเปลี่ยนรูปแบบการรับชมรายการทีวีและภาพยนตร์ของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนวิธีทำเงินของนักแสดงด้วย
โดยปกติแล้วนักแสดงและนักเขียนจะได้รับค่าจ้างล่วงหน้า (Upfront) นอกจากนี้หลายคนยังมีรายได้จากเงินส่วนแบ่ง (Residuals) เช่น เมื่อมีการนำผลงานของพวกเขาไปรีรันตามช่องทางต่างๆ ซึ่งรายได้ในส่วนนี้ช่วยให้นักแสดงรุ่นเก๋า รวมถึง ฟราน เดรสเชอร์ ประธาน SAG มีเงินจุนเจือไปตลอดอาชีพการทำงาน
แต่บริการสตรีมมิงได้เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ทั้งนักแสดงและนักเขียนกล่าวว่า เงินส่วนแบ่งของพวกเขาลดลงและกำลังทำลายวิถีชีวิตของพวกเขา
อย่างไรก็ดี ในขณะที่นักเขียนและนักแสดงกล่าวว่า การหยุดงานประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการเดิมพันอนาคตทางอาชีพของพวกเขา แต่ข้างฝ่ายผู้บริหารสตูดิโอแย้งว่า ความต้องการของพวกเขาไม่มีเหตุผล
AMPTP เผยว่า ตัวแทนเจรจาของ SAG เลือกที่จะทิ้งข้อเสนอการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งสูงที่สุดในรอบ 35 ปี เพื่อไปสนับสนุนการหยุดงานประท้วง
“AMPTP เสนอสัญญาขึ้นค่าจ้างและค่าส่วนแบ่งมากเป็นประวัติการณ์” ผู้บริหารสตูดิโอกล่าว “แต่น่าเสียดายที่สหภาพฯ เลือกเส้นทางที่จะนำไปสู่ความยากลำบากทางการเงินสำหรับผู้คนจำนวนมหาศาลที่ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมนี้”
โจนาธาน ฮันเดล นักกฎหมายในวงการบันเทิง กล่าวว่า การนัดหยุดงานครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเรียกร้องเงินเพิ่มให้กับบรรดาดาราดังที่มีรายได้หลายล้านอยู่แล้ว เนื่องจากดาราชั้นนำไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ แต่ถึงกระนั้น โดมินิก เบอร์เกส นักแสดงชาย กล่าวว่า การปรากฏตัวของดาราดังอาจช่วยกดดันให้สตูดิโอเข้าสู่โต๊ะเจรจาด้วยข้อตกลงที่ยุติธรรม
ขณะที่ มายา กิลเบิร์ต-ดันบาร์ ซึ่งเป็นสมาชิกของทั้ง SAG และสมาคมนักเขียน กล่าวว่า สมาชิกส่วนใหญ่ในสหภาพแรงงาน SAG ทำเงินได้ไม่เกินค่าแรงขั้นต่ำ
“สมาชิกส่วนใหญ่ของเราเป็นนักแสดงตัวประกอบ” เธอกล่าว “คนเหล่านี้แทบจะทำเงินได้เพียง 150 ดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น”
นอกจากเรื่องค่าตอบแทนแล้ว สำหรับนักแสดงหลายคน การเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ SAG-AFTRA ยังเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพ แต่ปัจจุบันมีเพียง 15% ของสมาชิก 160,000 คนของสหภาพฯ ที่ทำเงินได้ 26,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่จะทำให้พวกเขามีสิทธิ์ได้รับความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาล ยิ่งไปกว่านั้น นักแสดงสูงอายุยังถูกยกเลิกแผนประกันหลังจากอายุ 65 ปีด้วย
ด้าน AMPTP ยืนยันว่า ทางสมาพันธ์ฯ ได้เสนอเพิ่มเงินทุนสำรองเลี้ยงชีพและเงินสมทบประกันสุขภาพขึ้นอย่างมากแล้ว แต่ทาง SAG-AFTRA ยังไม่พอใจ
📍 ผลกระทบจากการเข้ามาของ AI
นอกจากการเจรจาเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการแล้ว การประท้วงครั้งนี้ยังเกี่ยวข้องกับ AI อีกด้วย
AMPTP กล่าวว่า ข้อเสนอเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิ์จาก AI ที่ทางสมาพันธ์ฯ เสนอให้กับ SAG นั้นเป็น ‘ข้อเสนอที่ทันสมัย’ ซึ่งปกป้องความเหมือนทางดิจิทัล (Digital Likeness) ของนักแสดง รวมถึงกำหนดเงื่อนไขว่าค่ายหนังต้องได้รับความยินยอมจากนักแสดงก่อนที่จะนำไปสร้างและใช้เป็นแบบจำลองดิจิทัล (Digital Replica) หรือนำไปดัดแปลงทางดิจิทัล (Digital Alteration)
แต่ในการแถลงข่าวประกาศการนัดหยุดงาน ดันแคน แครบทรี-ไอร์แลนด์ หัวหน้าผู้เจรจาของ SAG อธิบายว่า สาเหตุที่สหภาพแรงงานปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวนั้น เป็นเพราะข้อเสนอดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงนักแสดงตัวประกอบ โดยระบุว่า นักแสดงตัวประกอบได้รับเงินค่าจ้างรายวัน และภาพของพวกเขา ความเหมือนทางดิจิทัลของพวกเขา จะถูกใช้งานไปตลอดโดยไม่ได้รับความยินยอมและไม่มีค่าตอบแทน
“ดังนั้นหากคุณคิดว่านั่นเป็นข้อเสนอที่แปลกใหม่ ผมขอแนะนำให้คุณคิดใหม่อีกครั้ง” ดันแคนกล่าว
📍 ผลกระทบต่อภาพยนตร์และรายการทีวี
การผลิตภาพยนตร์และรายการทีวีเริ่มหยุดชะงักอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ผู้เขียนบทรวมตัวหยุดงานประท้วงไปก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม
ภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ที่เขียนบทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น The Lord of the Rings: The Rings of Power สามารถถ่ายทำต่อได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าจะไม่มีนักเขียนประจำอยู่ในกองถ่ายก็ตาม
แต่หากไม่มีนักแสดง โปรดักชันในสหรัฐฯ ที่ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ น่าจะเหลือแค่ละครจำพวก Soap Opera รวมไปถึงรายการเรียลิตี้และเกมโชว์
และแม้การเปิดตัวภาพยนตร์จะได้รับผลกระทบแบบทันทีทันใดน้อยกว่า เนื่องจากระยะเวลากว่าที่การถ่ายทำจะแล้วเสร็จไปจนถึงการเริ่มออกฉายในโรงภาพยนตร์นั้นต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ยิ่งการประท้วงดำเนินไปนานเท่าไร ผลกระทบต่อการออกฉายภาพยนตร์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ช่วงที่ผ่านมาสตูดิโอฮอลลีวูดรายใหญ่เริ่มปรับเปลี่ยนกำหนดการออกฉาย ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้ Disney ได้เลื่อนการเปิดตัวภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ Marvel หลายเรื่องออกไป ได้แก่ Captain America: Brave New World, Blade, Fantastic Four รวมถึง Avengers: The Kang Dynasty และ Avengers: Secret Wars ด้วย
อย่างไรก็ดี SAG-AFTRA เปิดช่องไว้ว่า อาจยกเว้นข้อห้ามจากการหยุดงานให้กับภาพยนตร์อิสระขนาดเล็ก
📍 โปรดักชันในต่างประเทศจะได้รับผลกระทบหรือไม่
SAG-AFTRA เป็นสหภาพแรงงานอเมริกัน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอสแอนเจลิส แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผลกระทบของการนัดหยุดงานจะจำกัดอยู่แค่ในเขตแดนของสหรัฐฯ เท่านั้น
“นักแสดงที่เป็นสมาชิกของ SAG-AFTRA จะต้องหยุดทำงาน ไม่ว่าพวกเขากำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ในยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย หรือที่ใดก็ตาม” ทนายความฮอลลีวูดกล่าว
นอกจากนี้นักแสดงที่เป็นสมาชิก SAG-AFTRA จะไม่สามารถเดินสายโปรโมตรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ได้ในช่วงที่มีการหยุดงานประท้วง ซึ่งนั่นหมายความว่า รอบปฐมทัศน์และเทศกาลภาพยนตร์ฤดูใบไม้ร่วงที่สำคัญ เช่น เวนิสและโทรอนโต อาจได้รับผลกระทบด้วย
ดังนั้นในระหว่างที่การนัดหยุดงานยังคงดำเนินต่อไป อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นดาราฮอลลีวูดในงานเปิดตัวภาพยนตร์ งานเทศกาล หรือบนพรมแดง เนื่องจากกฎของสหภาพฯ ห้ามไม่ให้นักแสดงทำงานใดๆ รวมถึงการโปรโมตหรือประชาสัมพันธ์โปรเจกต์
“โชคไม่ดีที่การนัดหยุดงานไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้น” ดันบาร์กล่าว และเสริมว่า เธอหวังว่าท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจะสามารถตกลงสัญญาที่เหมาะสมได้
📍 การหยุดงานจะกินเวลานานเท่าไร
การนัดหยุดงานประท้วงเกิดจากการที่ทั้งสองฝ่ายไม่เต็มใจที่จะเจรจากันแล้ว และอาจต้องใช้เวลากว่าที่ทั้งสองสหภาพจะกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ทั้งนักเขียนและนักแสดงหยุดงานนั้นกินเวลา 10 สัปดาห์ และนำโดย โรนัลด์ เรแกน ซึ่งยังเป็นนักแสดงอยู่ในขณะนั้น
สำหรับการนัดหยุดงานของนักเขียนครั้งล่าสุดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 11 สัปดาห์ หรือเข้าสู่เดือนที่สามแล้ว โดยไม่มีวี่แววว่าจะยุติลง
อย่างไรก็ดี ในอดีตที่ผ่านมาการนัดหยุดงานในฮอลลีวูดมีระยะเวลาที่แตกต่างกันมาก ตั้งแต่หลายเดือนไปจนถึง 3 ชั่วโมง
“นั่นขึ้นอยู่กับสตูดิโอ เราพร้อมที่จะพูดคุยกับพวกเขาในคืนนี้” ฟราน เดรสเชอร์ ประธาน SAG-AFTRA กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 กรกฎาคม)
“มันขึ้นอยู่กับพวกเขา หากพวกเขาเต็มใจที่จะพูดคุยในแบบปกติ พร้อมทั้งให้เกียรติในสิ่งที่เราทำ” เธอกล่าว
ด้านทนายฮอลลีวูดคาดการณ์ว่า การประท้วงจะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอย่างน้อย
“การหยุดงานประท้วงจะดำเนินต่อไปและไม่ได้รับการแก้ไขโดยง่าย” เขากล่าว “มีความขมขื่นมากมายระหว่างนักเขียนกับสตูดิโอ และนักแสดงกับสตูดิโอ”
📍 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ตั้งแต่การบัญชีไปจนถึงการจัดเลี้ยงและการขนส่ง ธุรกิจนับไม่ถ้วนเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมบันเทิง
นั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่จะคำนวณผลกระทบทางการเงินของการนัดหยุดงานครั้งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ผลกระทบนั้นมหาศาลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“15 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่นักเขียนหยุดงานประท้วงนั้นกินเวลา 100 วัน ซึ่งประมาณการตัวเลขความเสียหายราว 2 พันล้านดอลลาร์ นั่นเท่ากับ 20 ล้านดอลลาร์ต่อวัน” ฮันเดลกล่าว พร้อมกับเสริมว่า เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว เกือบ 30 ล้านดอลลาร์ต่อวันที่จะหายไปในแคลิฟอร์เนียเพียงรัฐเดียว
“เชื่อฉันเถอะ เราเจ็บปวดที่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ แต่ถ้าเราไม่ให้สิ่งที่สมาชิกเหล่านี้สมควรจะได้รับ สิ่งต่างๆ ก็มีแต่จะยิ่งเลวร้ายลง” เดรสเชอร์กล่าว
“นี่คือจุดที่เรากำหนดไว้ และเป็นสิ่งที่แย่มากที่ต้องทำ แต่เราถูกบังคับ”
อ้างอิง:
