ธปท. จ่อเรียกธุรกิจการให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รายงานตัว ก่อนธุรกิจดังกล่าวจะเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน
วันนี้ (6 มิถุนายน) ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ‘พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2568’ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
“โดยกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดให้ ธปท. เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นทางค้าปกติที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน”
ทั้งนี้ ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับประชาชน โดยปริมาณธุรกรรมมีค่อนข้างสูง ล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 ยอดธุรกรรมคงค้างอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งมีนัยต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมและกระทบประชาชนในวงกว้าง และประมาณ 1 ใน 3 ของยอดธุรกรรมคงค้างดังกล่าว เป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะ
“ในระหว่างนี้ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจเตรียมความพร้อมในการรายงานตัวกับ ธปท. เพื่อรองรับการกำกับดูแลและถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. ในระยะข้างหน้า โดย ธปท. จะแจ้งวันและระยะเวลาในการรายงานตัวให้ทราบต่อไป”
ภาพ: AnupongTermin / Shutterstock