วันนี้ (23 ธันวาคม) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาครเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สร้างความวิตกกังวลให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หรือผู้ที่มีประวัติการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงเป็นอย่างมาก กรม สบส.จึงขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งสถานพยาบาลเอกชนถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในระบบการสาธารณสุขไทย เพื่อที่จะร่วมกับภาครัฐหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย และสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล โดยไม่ต้องกังวลต่อภาระค่าใช้จ่าย
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล โดยให้ประชาชนเข้ารับสิทธิการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิรักษาของตนเอง แต่หากมีความจำเป็นหรือมีภาวะฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลใดก็ได้ทั้งรัฐ และเอกชน หรือหากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการเข้าข่ายป่วยโรคโควิด-19 และต้องการตรวจวินิจฉัยว่าตนมีอาการของโรคโควิด-19 หรือไม่ ก็สามารถเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิ หรือตามโรงพยาบาลใดๆ ก็ได้ทั้งรัฐและเอกชน หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้ติดโรคโควิด-19 จะถูกส่งตัวรักษาตามกระบวนการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากว่าไม่มีอาการเข้าข่ายป่วยตามหลักเกณฑ์ แล้วต้องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง หากสถานพยาบาลใดปฏิเสธการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคโควิด-19 หรือเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ป่วยหรือญาติ จะถือว่ามีความผิดตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งมีอัตราโทษ ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กรม สบส.ขอกำชับให้สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถ โดยไม่เอาค่าใช้จ่ายมาเป็นเงื่อนไข ห้ามเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยหรือญาติโดยเด็ดขาด และให้จัดเก็บเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย เพื่อนำมาประกอบการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด และหากประชาชนมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน กรม สบส. โทร. 1426 ในวันและเวลาราชการ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล