Hermès กวาดรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2025 เพิ่มขึ้น 7% ตามอัตราการแลกเปลี่ยนแบบคงที่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2024 พร้อมเตรียมปรับราคาสินค้าขึ้นอีก 10% ในสหรัฐฯ สู้กำแพงภาษีของประธานาธิบดี Donald Trump
โดยทาง Hermès ได้จัดทำสรุปรวมผลประกอบการจนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำไปได้ทั้งหมด 4.1 พันล้านยูโร หรือราว 155,121 ล้านบาท ซึ่งซีอีโออย่าง Axel Dumas กล่าวว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ท่ามกลางสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน
“แบรนด์เราสามารถสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งได้มากกว่าครั้งไหนๆ ทั้งเรื่องคุณภาพที่ไม่ประนีประนอม ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นหัวใจของทุกกระบวนการ และการรักษางานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์” Axel Dumas เผยในจดหมายจากแบรนด์
สำหรับพื้นที่พบการเติบโตมากที่สุดอยู่ที่ญี่ปุ่นที่ 17% ตามมาด้วยตะวันออกกลางและฝรั่งเศสบ้านเกิดที่เพิ่มขึ้น 14% และทวีปยุโรปโดยรวมที่ 13% ต่อด้วยทวีปอเมริกาที่ถึงแม้ว่าจะมีการปรับภาษีนำเข้าและส่งออกที่ผันผวน แต่ก็ยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 11% และเอเชียโดยรวมของเราที่เพิ่มขึ้นเพียง 1% ที่ลูกค้าในจีนจับจ่ายน้อยลง แต่ยังมีการขยายธุรกิจในตลาดสำคัญอย่างประเทศไทยที่เพิ่งเปิดร้าน Central Embassy ไปอย่างยิ่งใหญ่หลังปิดปรับปรุง
สินค้าที่เป็นเหมือนบ่อเงินบ่อทองยังคงหนีไม่พ้นเครื่องหนังและอานม้าที่เพิ่มขึ้น 10% แถมทางแบรนด์ยังมีแผนขยายโรงงานผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งในปี 2026 และ 2027 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ตรงข้ามกับสินค้านาฬิกาที่ลดลงในแดนติดลบ 10%
ภาพ: Hermès
อ้างอิง: