เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Hermès รายงานว่า ผลประกอบการของปี 2022 สร้างรายได้ไปทั้งหมด 11,200 ล้านยูโร โตขึ้นมาสูงถึง 22% จากปี 2021 โดยหากดูในสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ของหมวดสินค้า กลุ่มเสื้อผ้า Ready-to-Wear ก็มาเป็นอันดับ 2 ทำเงินไป 3,152 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าสูงมหาศาล และตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Hermès ในด้านนี้ไม่น้อย แม้ทางแบรนด์จะหนักแน่นไม่เล่นเกมการตลาดที่ต้องแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั่วโลกนับ 10 คน มีการ Red Carpet Dressing ดาราฮอลลีวูดอยู่ตลาดเวลา หรือทำแคมเปญโฆษณาเพื่อสร้างกระแสไวรัลl
โดยกับแฟชั่นโชว์เอง ทุกซีซันในช่วง Paris Fashion Week ทาง Hermès จะจัดสล็อตเวลา 14.30 น. ของทุกวันเสาร์ (เวลาปารีส) เป็นประจำ สาวกของแบรนด์ก็จะรู้ดีว่าเราจะไม่ได้เห็นนางแบบตัวท็อปแห่กันมาเดินหรือการทำ Special Collaboration กับแบรนด์อื่น แต่เราจะได้เห็น Masterclass ในผลงานการดีไซน์เสื้อผ้าที่สะท้อนความงดงาม คลาสสิก และเรียบหรู ตามคอนเซปต์ Understated Luxury ซึ่งนั่นก็ยังมีให้เห็นอย่างเต็มเปี่ยมกับคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 ของเสื้อผ้าผู้หญิงที่จัดรันเวย์ไปเมื่อคืนนี้ (4 มีนาคม)
ซีซันนี้ Nadège Vanhee-Cybulski ครีเอทีฟไดเรกเตอร์อาณาจักรเสื้อผ้าผู้หญิงของ Hermès ได้แรงบันดาลใจจาก ‘เส้นผม’ และบทบาทของมันในการสร้างตัวตนให้มนุษย์เรา ซึ่งเห็นได้ชัดผ่านไอเท็มอย่างเสื้อสเวตเตอร์ถักที่ทำเป็นลวดลายผมถักเปีย หรือการทำกระเป๋าจากเส้นผมม้า โดย Sarah Mower นักวิจารณ์ของ Vogue Runway เผยว่า Nadège Vanhee-Cybulski ได้ไอเดียหลังจากที่ตัดสินใจตัดผมของตัวเอง
นอกจากนี้คอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 ก็ยังโดดเด่นด้วยการเลือกสีที่ Hermès จะมีเอกลักษณ์เรียกชื่อไม่เหมือนใคร ทั้ง Blonde-Beige, Brass Yellow, Fire Red และ Maghony Brown โดยในแต่ละลุคก็จะมีการ Layering หลายไอเท็มแบบ Monochrome ที่มีเฉดสีเดียวกันหมดตั้งแต่หมวก แจ็กเก็ต กระโปรง ไปจนถึงรองเท้าที่ซีซันนี้มาเป็นบู๊ตทั้งหมดกับส้นรูปทรงชื่อ Clou de Forge
สิ่งที่เราต้องชื่นชมมากที่สุดเกี่ยวกับคอลเล็กชันนี้คือการที่ Nadège Vanhee-Cybulski ยังคงสามารถรังสรรค์ไอเท็มที่ดูคุ้มค่าในการลงทุนอย่างมากและนำมาสวมใส่ได้อีกปี 3 ปี 10 ปี หรือส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานก็ได้ อย่างเช่น โค้ตยาวสีเหลืองทำจาก Technical Cotton Canvas หรือแจ็กเก็ตสั้นทำจากผ้าวูลผสมแคชเมียร์
ภาพ: Getty Images
