วันนี้ (22 มีนาคม ) อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัจจุบันมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ในความเป็นจริงบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิดล้วนมีสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Products: HTPs) ที่มักถูกเข้าใจผิดว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ซิกาแรตเพราะไม่มีการเผาไหม้
อนุกูลระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเพิ่มความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ถึง 2 เท่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกชี้ว่า กลุ่มโรค NCDs เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยมีคนไทยป่วยด้วยโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 300,000 คนต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตก่อนอายุ 60 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
งานวิจัยจำนวนมากยืนยันถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อน เช่น การศึกษาของสถาบันชีวการแพทย์และการแพทย์ สาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับมหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา พบว่า บุหรี่ไฟฟ้าแบบให้ความร้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง และไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรค NCDs
อนุกูลกล่าวต่อว่า ผลงานวิจัยสำคัญสรุปว่า ผู้สูบบุหรี่ HTPs ในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ใดๆ เลย จะเสี่ยงเกิดโรค NCDs เพิ่มขึ้น 68% และกลุ่มผู้สูบบุหรี่ HTPs ที่สูบบุหรี่ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะเสี่ยงเกิดโรค NCDs เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือเพิ่มขึ้น 33% นอกจากนี้ผู้สูบบุหรี่ HTPs ที่สูบมากกว่า 16 ครั้งต่อวัน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs สูงกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา
ทั้งนี้ นอกจากอันตรายต่อสุขภาพแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ายังมีโทษทางกฎหมาย โดยอนุกูลได้เตือนถึงบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าดังนี้
- ผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า: มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า: มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนี้ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้ครอบครองหรือรับฝากไว้: มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560
- สูบในที่สาธารณะ: หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่มี ‘นิโคติน’ เป็นส่วนประกอบ ‘ในเขตปลอดบุหรี่’ ถือเป็นความผิดตามมาตรา 42 ของ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท (บัญญัติไว้ในมาตรา 67)
