×

หาดใหญ่จม-อาเซียนวิกฤต สื่อต่างประเทศมองเหตุน้ำท่วม ชี้ไม่ใช่แค่โลกเดือด แต่ยังรวมถึงการจัดการที่อ่อนแอ

25.11.2025
  • LOADING...
หาดใหญ่จม-อาเซียนวิกฤต สื่อต่างประเทศมองเหตุน้ำท่วม ชี้ไม่ใช่แค่โลกเดือด แต่ยังรวมถึงการจัดการที่อ่อนแอ

สื่อต่างประเทศตีข่าววิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ในประเทศไทยและอาเซียน ชี้เป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่กระทบภูมิภาคที่คร่าชีวิตผู้คน นับเป็นภาพสะท้อนวิกฤตจากภาวะโลกเดือด ขณะที่มีการมองว่า การบริหารจัดการภัยพิบัติ ยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาเลวร้ายมากขึ้น

 

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น South China Morning Post, CNA และ Reuters รายงานข่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศ โดยระบุว่า หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กลายเป็นเขตภัยพิบัติ หลังเกิดเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในรอบ 300 ปี ขณะที่หลายประเทศในอาเซียน เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้

 

‘น้ำที่ท่วมแล้วท่วมอีก’ ไม่ใช่แค่โลกเดือด แต่ยังรวมถึงการจัดการที่อ่อนแอ

 

South China Morning Post พาดหัวข่าวว่า ‘น้ำที่ท่วมแล้วท่วมอีก’ ถล่มไทยและเวียดนาม ขณะที่มาเลเซียอาจเป็นรายถัดไป โดยเนื้อความระบุว่า ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นจากอิทธิพลของลานีญาในมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ฝนตกหนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่าปกติ ซึ่งผสมผสานกับการบริหารจัดการวิกฤตน้ำท่วมที่อ่อนแอ

 

รายงานระบุว่า วิกฤตครั้งนี้ทำให้เกิดผลกระทบมากมายในประเทศไทยตามมา เช่น ถนนถูกตัดขาด เหตุไฟฟ้าขัดข้อง ไปจนถึงประชาชนไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ทั้งไม่มีไฟฟ้า หรืออาหารสดรับประทานเป็นเวลาหลายวัน

 

เจ้าของ Airbnb รายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับ South China Morning Post ว่า นี่คือวิกฤตเลวร้ายมากที่สุดที่เขาเคยเผชิญมา โดยเรียกเหตุอุทกภัยว่า ‘น้ำที่ท่วมแล้วท่วมอีก’

 

“คุณจะบอกก็ได้ว่า นี่คือวิกฤตจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่การขาดการจัดการน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ ก็เป็นสาเหตุหลักของภัยพิบัติครั้งนี้เช่นเดียวกัน” เจ้าของ Airbnb ให้สัมภาษณ์ ซึ่ง South China Morning Post ตีข่าวว่า นี่เป็นเสียงสะท้อนถึง ‘ความโกรธแค้น’ ในหมู่ภาคประชาชน ต่อความล้มเหลวในการจัดการภัยพิบัติประจำปี

 

South China Morning Post ยังระบุถึงสถานการณ์ในเวียดนาม หลังตอนกลางของประเทศเผชิญเหตุพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 90 ราย และประชาชนนับหมื่นต้องอพยพจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม

 

นอกจากนี้ พื้นที่ท่องเที่ยวอย่างญาจางและฮอยอัน ยังถูกน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งยิ่งกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวพยายามหลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่ดังกล่าว

 

ขณะที่มาเลเซียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ โดยรายงานระบุว่า หน่วยกู้ภัยมาเลเซียอพยพประชาชนกว่า 1.4 หมื่นคนใน 9 รัฐ เพราะเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐกลันตันบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เพราะมีพื้นที่ติดกับไทย โดยประชาชน 9,700 คน ต้องอพยพไปศูนย์พักพิงชั่วคาว

 

อนึ่ง โมฮัมหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ประกาศขอให้ชาวมาเลเซียงดเดินทางไปไทยและเวียดนามในช่วงปลายปี พร้อมระบุว่า รัฐบาลพร้อมหารือกับทางการเวียดนามเพื่อช่วยเหลือ

 

น้ำท่วมหาดใหญ่กระทบต่างชาติ มาเลเซียและสิงคโปร์ ติดต่อไทยเร่งอพยพพลเมือง

 

ขณะที่ CNA สื่อสิงคโปร์รายงานว่า หาดใหญ่ เมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว กลายเป็นเขตภัยพิบัติเหมือนกับทุกอำเภอในจังหวัดสงขลา หลังเกิดเหตุฝนตกหนัก จนน้ำท่วมสูง ทำให้ถนนสายหลักถูกตัดขาด นักท่องเที่ยวนับพันติดอยู่ในโรงแรม ขณะที่บริการอินเทอร์เน็ตและระบบประปาใช้การไม่ได้ ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่อ้างอิงจาก Bangkok Post และ The Nation Thailand

 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ยังกระทบกับมาเลเซีย โดยกระทรวงต่างประเทศมาเลเซียโพสต์ข้อความบน Facebook ว่า มีพลเมืองมาเลเซีย 4,000 คน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ โดยขอให้ประชาชนรอที่บริเวณล็อบบี้ เพื่อรอการอพยพจากทางการไทย

 

สำหรับประเด็นความช่วยเหลือ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ระบุว่า สถานทูตในกรุงเทพฯ ได้ประสานกับทางการไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือพลเมืองที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำให้ชาวสิงคโปร์ลงทะเบียนออนไลน์กับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุดกับทางการ

 

ภูมิภาคอาเซียนกระทบหนัก หลัง มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม เผชิญวิกฤตน้ำท่วม

 

ด้าน Reuters รายงานว่า เกิดเหตุน้ำท่วมในไทยและมาเลเซีย​ โดยในภาคใต้ของไทยมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ 8 ราย ขณะที่ในกัวลาลัมเปอร์ ประชาชนหลายพันคนต้องเร่งอพยพไปยังศูนย์พักพิง

 

รายงานระบุว่า หาดใหญ่เผชิญฝนตกหนักที่สุดในรอบ 300 ปี โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย เพราะไฟฟ้าช็อต และอุบัติเหตุจากอุทกภัย อีกทั้งยังมีประชาชนอย่างน้อย 7 แสนครัวเรือนได้รับผลกระทบ

 

นอกจากนี้ Reuters ยังอ้างอิงแถลงการณ์รัฐบาลของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งสั่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม และให้มีการช่วยเหลือประชาชนที่ครอบคลุมและทันท่วงที

 

สำหรับสถานการณ์ในมาเลเซีย มีประชาชน 1.5 หมื่นคนอยู่ในศูนย์พักพิง แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่ อาห์หมัด ซาฮิด ฮามิดี (Ahmad Zahid Hamidi) รองนายกฯ มาเลเซียระบุว่า รัฐบาลกำลังเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชน ด้วยการระดมหน่วยป้องกันภัยพลเรือน รถบรรทุก และอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ

 

รายงานยังทิ้งท้ายถึงเหตุน้ำท่วมในเวียดนามว่า ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เพราะน้ำลดลง หลังจากท่วมนานถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนราว 91 คน ขณะที่บ้านเรือน 1.1 ล้านแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้

 

เหตุอุทกภัยในเวียดนาม สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่า 493 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลได้เยียวยาด้วยการให้เงินชดเชย และข้าวราว 4,000 ตันกับผู้ประสบภัย

 

ภาพ: Roylee Suriyaworakul / Reuters

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising