“ดูอยู่หรือเปล่า แฮร์รี เคน?” คือคำถามจากใจของแฟนบอลท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ส่งตรงถึงกองหน้าหมายเลขหนึ่งของพวกเขา หลังจากที่พลพรรค ‘ไก่เดือยทอง’ สามารถล้มแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่เขาหวังอยากจะย้ายไปร่วมทีมด้วยได้ในเกมแรกของฤดูกาลใหม่
โดยในเกมเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ซึ่งเริ่มต้นยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ นูโน เอสปิริโต ซานโต ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถสะกดเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้อย่างหมดจด และสามารถสร้างสรรค์โอกาสจากการเล่นเกมสวนกลับเร็วได้อันตรายตลอดเวลา สุดท้ายเป็น ซนฮึงมิน กองหน้าชาวเกาหลีใต้ ที่รับบทฮีโร่ ทำประตูขึ้นนำให้ทีมในช่วงต้นครึ่งหลัง และกลายเป็นประตูชัยในเวลาต่อมา
ก่อนที่เกมนี้จะเริ่มขึ้นมีการคาดกันว่าเคนจะยอมลงสนามหรือไม่ในเกมนี้ หลังจากที่เคยประกาศชัดเจนว่าจะไม่กลับมาเล่นให้สโมสรอีกและจะขอย้ายออกจากทีม ซึ่งสุดท้ายแล้วดาวยิงวัย 28 ปีที่กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมช้ากว่ากำหนดที่ควรเป็นไม่มีชื่อในทีมจริงๆ ไม่ว่าจะตัวจริงหรือตัวสำรอง
ถึงแม้ว่า นูโน เอสปิริโต ซานโต ที่ย้ายมาจากวูล์ฟส์ ชี้แจงว่าเป็นเพราะเคนยังมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์พร้อมเพราะกลับมารายงานตัวช้า แต่การที่ไม่ยอมมาปรากฏกายในสนามเลยนั้นเป็นการแสดงออกที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเขายังคงมีจุดยืนเดิมที่อยากจะขอย้ายออกจากทีมให้ได้ (และทำให้แฟนบอลยิ่งไม่พอใจเข้าไปอีก)
เพียงแต่โอกาสนั้นจะยังเป็นไปได้หรือไม่ หรือเคนควรจะต้องทำใจและหันกลับมาทุ่มเทให้กับสเปอร์สที่เหมือนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในตอนนี้?
THE STANDARD ชวนคุณผู้อ่านมาวิเคราะห์สถานการณ์ของทั้ง 3 ฝ่ายกันอย่างละเอียดอีกครั้ง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้วันนี้ต้องการเคนมากกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าจะเป็นทีมที่มีมูลค่าสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่จากฟอร์มที่ได้เห็นในเกมที่พ่ายต่อสเปอร์สนั้น สะท้อนให้เห็นถึงจุดที่น่ากังวลของแมนเชสเตอร์ ซิตี้เกี่ยวกับปัญหาของเกมรุกที่ยังคงแก้ไขไม่ได้นับจากฤดูกาลที่แล้ว คือ เรื่องของตำแหน่งศูนย์หน้าที่มีความเหมาะสมกับทีม
ทั้งนี้ แม้ว่าในฤดูกาลที่แล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะปรับจูนจนทำให้ ‘เรือใบสีฟ้า’ ไม่จำเป็นต้องมีศูนย์หน้าธรรมชาติเลย ก็ยังสามารถทำผลงานได้ดีจนคว้าแชมป์ได้ก็ตาม แต่ทางด้านกุนซือชาวคาตาลันยังต้องการกองหน้าอาชีพจริงๆ ที่จะทำให้ทีมลงตัวสมบูรณ์แบบ
เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วที่ เซร์คิโอ อเกวโร ได้รับบาดเจ็บตลอดเวลา และ กาเบรียล เฆซุส เองก็ไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้ ทำให้เกมรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถูกลดความน่าเกรงขามลงไปจากเดิมมาก และจะมีปัญหาถึงขั้นต้องลุ้นเหนื่อยทันทีหากเกมไหนเจอคู่แข่งที่ตั้งรับมาได้ดี
นักเตะอย่าง เฟร์ราน ตอร์เรส, ฟิล โฟเดน, ราฮีม สเตอร์ลิง หรือแม้แต่ เควิน เดอ บรอยน์ ล้วนถูกใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหา แต่มันไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด ซึ่งคำตอบที่ดีที่สุดที่เป๊ปประกาศชัดเจนแล้ว คือ ศูนย์หน้าที่ครบเครื่องและเก่งที่สุดคนหนึ่งของโลกอย่างเคน
ความพ่ายแพ้ในเกมกับสเปอร์ส แม้จะประกอบไปด้วยหลายปัจจัย แต่เห็นได้ชัดว่าเกมรุกของซิตี้มีปัญหา การมี แจ็ค กรีลิช นักเตะ 100 ล้านปอนด์คนแรกของอังกฤษ ไม่ใช่การแก้ปัญหาแนวรุก และตัวของดาวเตะวัย 25 ปีก็เพิ่งย้ายมาร่วมทีม ต้องปรับตัวกับสไตล์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้อีกมาก
ในขณะที่คู่แข่งอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มแสดงแสนยานุภาพให้เห็นด้วยการถล่มลีดส์ ยูไนเต็ดขาดลอย 5-1 รวมถึงเชลซีและลิเวอร์พูลก็ชนะขาดลอย 3-0 นี่คือสัญญาณอันตรายว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องรีบตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อในการคว้าตัวเคนหรือไม่
ตามทิศทางข่าวแล้วคาดว่าน่าจะมีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ แต่ปัญหาคือข้อเสนอนั้นอาจจะยังไม่ใช่ข้อเสนอที่ทำให้ แดเนียล เลวี ประธานสโมสรสเปอร์สพอใจง่ายๆ เพราะจุดยืนที่ชัดเจนอยู่ที่ 150 ล้านปอนด์ ขณะที่ซิตี้พร้อมยื่น 150 ล้านยูโร สกุลเงินไม่ตรงกัน
และตามชื่อเสียงของประธานจอมเขี้ยวแล้ว มีโอกาสที่จะลากเกมนี้ยาวไปจนถึงชั่วโมงสุดท้ายก่อนตลาดซื้อขายจะปิดตัวลงด้วยซ้ำ
สเปอร์สกับยุทธการยื้อจนถึงที่สุด
สำหรับ แดเนียล เลวี แล้วเขามีความอดทนเหลือมากเกินพอที่จะยื้อและเล่นเกมนี้จนถึงนาทีสุดท้าย เพราะสเปอร์สไม่ต้องการที่จะขายเคนออกไป
เคนอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของสโมสร แต่ในความเป็นสายเลือดแท้ของทีม เป็นฮีโร่ของแฟนบอล และเป็นศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ประเมินค่าเป็นตัวเลขไม่ได้ และนั่นทำให้เลวีจะไม่ยอมเสียเขาไปง่ายๆ โดยปราศจากการต่อสู้
ข้อแม้เดียวที่จะทำให้เคนได้ย้ายทีม คือ ต้องได้รับข้อเสนอ 150 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ตามประวัติศาสตร์ของสเปอร์สแล้ว ทุกครั้งที่นักเตะระดับสตาร์จะย้ายทีมก็จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เมื่อครั้งจะย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึง แกเร็ธ เบล และ ลูกา โมดริช ที่จะย้ายไปเรอัล มาดริด
เรียกว่าต้องยื้อกันจนอ่อนใจ จนถึงท้ายๆ แล้วถึงจะยอมใจอ่อน
แต่สำหรับเคน ตามรายงานของ The Times เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดูเหมือนท่าทีของสเปอร์สจะค่อนข้างมั่นใจว่าพวกเขาน่าจะรั้งตัวเคนเอาไว้ได้อีกอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาลด้วยกัน และกองหน้าเบอร์หนึ่งเองก็เหมือนจะใจอ่อนเพราะอ่อนใจด้วย
เหตุผลเพราะซิตี้เองที่ดำเนินการล่าช้าเกินไปในการหาทางเจรจา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางแชมป์พรีเมียร์ลีกสงวนท่าทีไม่รุกคืบมากนัก เนื่องจากพวกเขาพยายามที่จะดูว่าเคนจะสามารถเคลียร์ใจกับเลวีได้หรือไม่ และจะไม่ยอมยื่นข้อเสนอเด็ดขาดหากไม่มั่นใจว่าจะสามารถปิดการเจรจาได้
นั่นทำให้เรื่องเป็นไปอย่างล่าช้า และล่วงมาจนถึงตอนนี้ที่เหลือเวลาแค่ 2 สัปดาห์ก่อนตลาดการซื้อขายจะปิดตัวลง ทางด้านสเปอร์สคิดว่ามันช้าเกินไปที่จะให้เวลาพวกเขาหาตัวตายตัวแทน แม้ว่าจะมีข่าวกับกองหน้าอนาคตไกลอย่าง เลาตาโร มาร์ติเนซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาจากอินเตอร์ มิลาน และ ดูซาน วลาโฮวิช ดาวยิงเซอร์เบียจากฟิออเรนตินาก็ตาม
แต่การเจรจาก็ไม่ง่ายเลยในยามนี้ เพราะสโมสรเหล่านี้เองหากปล่อยใครออกไปก็ต้องหาตัวแทนเหมือนกัน กระทบกันเป็นทอดๆ โดยเฉพาะอินเตอร์ที่เพิ่งขาย โรเมลู ลูกากู ออกไปให้เชลซีด้วยเงินถึง 115 ล้านยูโร การจะเสียมาร์ติเนซอีกคนจะทำให้ทีมย่ำแย่ลงไปอีก
สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนใจพวกเขาได้ คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องเร่งเจรจาอย่างจริงจัง เงินต้องถึงด้วย เพื่อให้เลวีมีเวลาไปเดินหน้าหาตัวแทนควบคู่กันไปด้วย
แฮร์รี เคน อาจต้องเผื่อใจตัวเอง
ถึงท่าทีของ แฮร์รี เคน จะชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะย้ายออกจากทีม และทีมเดียวในเวลานี้ที่จะดึงตัวเขาไปได้คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี หรือเปแอสเช ได้เสริมทัพไปหมดแล้ว) แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความหวังนั้นลดน้อยลงในทุกวันที่ผ่านไป
ต่อให้เขามี ‘สัญญาสุภาพบุรุษ’ กับทางด้าน แดเนียล เลวี ตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะยอมเปิดทางให้ย้ายทีมได้ แต่หากสุดท้ายแล้วประธานสโมสรยืนยันว่า “เปิดทางให้แล้วแต่ไม่มีทีมที่ยื่นข้อเสนอที่น่าพอใจ” เคนก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากนัก
เพราะตัวเขาก็ยังมีสัญญากับสเปอร์ส และที่สำคัญกว่านั้นคือเขาไม่กล้าหาญมากพอที่จะหักน้ำใจกับแฟนๆ แม้ว่ายิ่งเวลาผ่านไปเท่าไร ความรู้สึกของแฟนบอลที่มีต่อตัวเขาจะยิ่งติดลบมากขึ้นทุกวันก็ตาม (เหมือนที่ร้องกันสนั่นสนามเมื่อคืนนี้)
ก่อนหน้านี้แฟนบอลวิพากษ์การที่เขากลับมารายงานตัวฝึกซ้อมช้า เคนก็ออกมาแก้ตัวผ่านการโพสต์ความในใจว่า เขาไม่ได้จะไม่ทำหน้าที่ของตัวเองและไม่เคยปฏิเสธการฝึกซ้อม แต่ทั้งหมดเป็นแผนที่กำหนดเอาไว้หมดแล้วว่าจะกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมเมื่อไร แม้ว่าคำแก้ตัวนั้นจะยิ่งชัดว่าเป็นแค่คำแก้ตัวก็ตาม จากการไม่มีชื่อและไม่ปรากฏตัวที่สนามด้วย
แต่จุดนี้เองที่อาจเป็นไม้ตายสุดท้าย เพราะหากเคนออกมาแสดงจุดยืนอะไรอีกสักอย่างที่ชัดเจนว่าเขาจะขอย้ายทีมจริงๆ โดยต้องยอมหักหาญน้ำใจกับแฟนบอลและสโมสรที่เขาอยู่มาทั้งชีวิต (ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สตาร์สเปอร์สต้องทำทุกคนเพื่อให้ได้ย้ายทีม) ถึงจุดนั้นเชื่อว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่สโมสรจะรั้งตัวไว้อีก และแมนเชสเตอร์ ซิตี้เองก็รอการแสดงจุดยืนของเขาเช่นกัน
เพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการทำแบบนี้นั้นอาจจะไม่คุ้ม โดยเฉพาะกับการประเมินสถานการณ์แล้วยังไม่เห็นความชัดเจนที่มากพอจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งยังมีปัญหาไม่สามารถเคลียร์นักเตะที่ไม่อยู่ในแผนบางส่วนออกไปได้ โดยเฉพาะ แบร์นาโด ซิลวา ที่เดิมหวังว่าจะปล่อยตัวออกจากทีมเพื่อนำมาต่อทุนใช้ซื้อเคน (ได้กรีลิชมาทดแทนแล้ว)
ถ้าทำแบบนั้นแล้วหมายถึงการ ‘ไม่มีทางกลับ’ สำหรับเคนกับสเปอร์สอีกต่อไป
ทางที่ดีกว่าคือการอดทนอยู่เงียบๆ ไปแบบนี้ก่อน และบางทีการเผื่อใจที่จะอยู่กับสเปอร์สต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาลก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เกินไปนัก เพราะจากที่เห็นในเกมนัดแรกภายใต้การนำของโค้ชคนใหม่อย่าง นูโน เอสปิริโต ซานโต ทีมดูจะได้ความสดชื่นที่หายไปนานกลับมา
ในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นักเตะทุกคนดูฟิต แข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยความกระหายที่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งแม้จะดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องมีเคนอีกแล้วก็ได้ แต่ความจริงแล้วถ้ามีเคนอยู่ด้วยสเปอร์สจะยิ่งดีขึ้นกว่านี้อีกมาก
ถ้าเคนกลับมาลงเล่นอย่างเต็มใจ ทุกคนจะกลับมามีความสุข และโอกาสจะกลับมายึดท็อปโฟร์อีกครั้งคือความท้าทายที่เป็นไปได้ และหลังจากนั้นอาจจะมีการหารือหรือวางแผนการย้ายทีมอีกครั้งก็เป็นไปได้เหมือนกัน
แต่ระหว่างนี้ไปจนถึงตลาดการซื้อขายจะปิดตัวลง ทุกวันจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน