“การได้รับชัยชนะส่งท้ายฤดูกาลเป็นสิ่งที่ดีมาก ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่หนักหนาด้วยสาเหตุมากมาย แต่ขอขอบคุณการสนับสนุนจากทุกคน ยังรู้สึกดีเสมอและขอบคุณสำหรับรางวัลแฟนอวอร์ด”
ข้อความดังกล่าวคือข้อความขอบคุณแฟนๆ จาก แฮร์รี เคน ยอดดาวยิงหมายเลขหนึ่งของทีม ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ดูเรียบง่ายและไม่ได้ดูมีอะไรให้ตีความซับซ้อนมากนัก
แต่ในสถานการณ์จริงคือกองหน้ากัปตันทีมชาติอังกฤษกำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต กับการตัดสินใจเดินออกจากทีมที่เขาอยู่มาตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชน
สำหรับเคน หนึ่งประตูในเกมที่ช่วยให้สเปอร์สบุกไปเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ได้ 4-2 ซึ่งทำให้เขาได้รางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ไปครองด้วยจำนวน 23 ประตู (พ่วงด้วยรางวัลผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูสูงสุดอีกรางวัล) คงจะเป็นประตูสุดท้ายกับทีม
เพราะถึงสเปอร์สจะได้สิทธิ์ผ่านไปเล่นรายการน้องใหม่ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก (Europa Conference League) จากการเป็นทีมอันดับที่ 7 ของพรีเมียร์ลีก แต่รายการที่เคนต้องการจะลงเล่นคือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และในวัย 27 ปี เคนต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิต
มันถึงเวลาที่เขาจะต้องก้าวต่อไป โดยไม่หันหลังกลับอีก
แต่มันจะเป็นอย่างที่เขาต้องการไหม?
สัญญาสุภาพบุรุษ ≠ สัญญาในกระดาษ
ประเด็นเรื่องการตัดสินใจจะขอย้ายออกจากสเปอร์สของ แฮร์รี เคน เริ่มต้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อมีรายงานข่าวว่ากองหน้าวัย 27 ปีต้องการจะย้ายไปอยู่กับทีมที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดมากกว่า หลังจากที่มองเห็นทิศทางแล้วว่าสโมสรไม่มีความสามารถที่จะแข่งขันกับทีมอื่นได้
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีเพราะเคนเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ไม่เพียงแต่ดีที่สุดของอังกฤษ แต่จัดอยู่ในกลุ่มกองหน้าที่เก่งที่สุดของโลกด้วย ซึ่งนักเตะในระดับนี้ไม่มีโอกาสให้ซื้อหาเข้ามาร่วมทีมได้บ่อยๆ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สโมสรใหญ่จะตัดสินใจ
สิ่งที่น่าสนใจคือมีการอ้างถึงเรื่องของ ‘สัญญาสุภาพบุรุษ’ ระหว่างเคนกับ แดเนียล เลวี ประธานสโมสรที่เคยมีการพูดคุยกันไว้ด้วย เนื่องจากเดิมมีความคิดที่จะย้ายออกจากสเปอร์สตั้งแต่หลังสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว แต่ได้รับการร้องขอให้อยู่กับทีมอีกหนึ่งฤดูกาลเพื่อให้เวลาและโอกาสแก่สโมสรที่หวังว่า โชเซ มูรินโญ จะพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ‘The Special One’ กลับโดนไล่ออกจากตำแหน่งก่อนหน้าจะถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพไม่ถึงสัปดาห์
การออกมาพูดถึงเรื่องของสัญญาสุภาพบุรุษนี้เป็นการ ‘เปิดการ์ดขอย้าย’ อย่างสุภาพจากนักเตะที่เป็น ‘ไอคอน’ หรือเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสโมสร
อย่างไรก็ดี จากทิศทางข่าวแล้วสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นคือเคนจะพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลวีถูกกดดันจากนักเตะในระดับสตาร์ของทีม เรื่องพวกนี้เขาเจอมาโดยตลอดตั้งแต่กรณีของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, แกเร็ธ เบล รวมถึง ลูกา โมดริช ที่ดื้อจนนักเตะแทบประสาทกิน
สิ่งที่เป็น ‘ไพ่ตาย’ สำหรับเลวี คือสัญญาฉบับจริงที่เคนได้เซ็นไว้เป็นลายลักษณ์อักษรกับสโมสรเมื่อครั้งต่อสัญญาออกไป 6 ปีเมื่อปี 2018 ซึ่งทำให้เขาได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า (ราว 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)
สำหรับกรณีนี้สิ่งที่เลวีจะทำอย่างแรกที่สุดคือการพยายามที่จะรั้งตัวเคนเอาไว้ เพราะความสำคัญของเขาสูงเกินกว่าจะยอมให้เกิดความเสียหายต่อทีมได้ การไม่มีกองหน้ารายนี้อาจหมายถึงการที่ทีมจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการจะหาคนมาทดแทน
แต่ในอีกมุมหนึ่งการขายเคนออกไปอาจหมายถึงการที่สโมสรจะหาเงินก้อนใหญ่เพื่อใช้หาคนทดแทนและสร้างทีมชุดใหม่ได้
แปลว่าเคนจะไปก็ได้…แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องมีสโมสรที่ยอมจ่ายมากพอที่จะทำให้เลวีพอใจเท่านั้น
‘ไอคอนสเปอร์ส’ กับราคาที่แท้จริง
ไม่มีใครรู้ว่าตัวเลขในใจที่ แดเนียล เลวี ต้องการหากจะปล่อยตัว แฮร์รี เคน ออกจากทีมสเปอร์สจริงๆ จะมีมูลค่าเท่าไร มีแต่สิ่งที่คาดการณ์จากสื่อเอาไว้ว่าเคนจะไปจากสเปอร์สได้ก็ต่อเมื่อมีทีมที่ยื่นข้อเสนอในระดับ 150 ล้านปอนด์ขึ้นไปเท่านั้น
ตรงนี้คืออุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการย้ายทีมของเคน เนื่องจากแม้จะเป็นสุดยอดผู้เล่นที่หาตัวจับได้ยากชนิดที่หากทีมใดได้ไปก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของทีมได้อย่างง่ายดาย แต่ด้วยค่าตัวระดับนี้และด้วยวัยของเขาที่อยู่ในช่วงอายุ 27 ปี โอกาสที่จะสามารถขายเพื่อทำกำไรหรือขายเพื่อหาทุนคืนกลับมานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
โดยเฉพาะเวลานี้โลกฟุตบอลได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างร้ายแรง สโมสรยักษ์ใหญ่ที่เคยมีอำนาจทางการเงินสูงหลายแห่งแค่เพียงประคองตัวให้รอดไปวันๆ ก็ลำบากในเวลานี้ ทำให้ ‘ทางเลือก’ ของเคนเหลือน้อยลงไปด้วย
ไม่นับเรื่องที่เคนไม่ได้เป็นนักฟุตบอลที่จะใช้เพื่อการหาประโยชน์ทางการตลาดได้เหมือนนักเตะระดับสตาร์คนอื่นๆ ของโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด, ลิโอเนล เมสซี, คีเลียน เอ็มบัปเป้ หรือแม้แต่ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์
ดังนั้น ทีมที่จะซื้อเคนในเวลานี้คือการซื้อเพื่อความสำเร็จเป็นหลักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และมันเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
และเคนเองก็อาจไม่ได้มี ‘มูลค่า’ สูงขนาดที่เลวีประเมินไว้ด้วยซ้ำไป
โดยตามการศึกษาของ CIES มีการประเมินมูลค่าของกัปตันทีมชาติอังกฤษไว้เพียงแค่ 60-77 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งเกณฑ์ในการประเมินนำมาจากองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นผลงาน, มูลค่าทางการตลาด, ระยะเวลาที่เหลือในสัญญา, ค่าเหนื่อย ฯลฯ
นักเตะดาวรุ่งอย่าง จาดอน ซานโช หรือ เมสัน เมาท์ ยังมีมูลค่ามากกว่าด้วยซ้ำไปตามการประเมินของ CIES
หรือหากประเมินกันแบบ ‘ฟุตบอล’ ทาง Transfermarkt ฐานข้อมูลฟุตบอลชื่อดังมีการประเมินค่าตัวของเคนเอาไว้ที่ราว 120 ล้านยูโรเท่านั้นเนื่องจากอายุมากขึ้น โดยช่วงที่เคนมีค่าตัวประเมินสูงสุดอยู่ที่ 150 ล้านยูโรในเดือนพฤษภาคม 2018 ถึงธันวาคม 2019 ในช่วงที่อายุ 24-26 ปี
ดังนั้น โดยสรุปแล้วราคาที่ทุกคนเชื่อว่าเลวีต้องการเป็นราคาที่สูงเกินไป
แฮร์รี เคน เดินลาแฟนๆ ที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ในเกมที่แพ้แอสตัน วิลลา เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีแฟนบอลที่อยู่รอเพียงหลักไม่กี่ร้อยคน
ทีมที่สนใจและวิธีการเจรจา
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการประเมินค่าตัวของเคนที่เลวีต้องการนั้นอาจจะสูงเกินกว่าความเป็นจริง แต่ในทางฟุตบอลแล้วผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนซื้อผู้เล่นนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินได้ด้วยเหตุและผลอย่างเดียว
เรื่องของความรู้สึกก็สำคัญ และความรู้สึกของการมีโอกาสได้นักเตะระดับเคน ก็ไม่ต่างอะไรจากเซียนการ์ดที่มีเห็นประกาศการขายการ์ดนักฟุตบอลในระดับ SSS ที่ไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ในทุกวัน
โชคดีสำหรับเคนที่สโมสรในกลุ่มที่สนใจตัวเขาล้วนเป็นทีมระดับยักษ์ใหญ่ที่มีความลึกของกระเป๋าค่อนข้างมาก
ทีมแรกที่ถูกมองว่าเป็นเต็งสูงสุดคือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเรื่องของอำนาจทางการเงินไม่มีอะไรต้องถาม พวกเขาไม่มีขีดจำกัดในเรื่องนี้
และที่สำคัญที่สุดแชมป์พรีเมียร์ลีกเพิ่งจะเสีย เซร์คิโอ อเกวโร ยอดศูนย์หน้าระดับตำนานไป และรูโหว่ตรงนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดที่เป็นข้อด้อยที่มีน้อยนิดของแมนฯ ซิตี้ในฤดูกาลนี้
เพราะแม้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะสามารถคิดค้นสูตรการเล่นใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งกองหน้าธรรมชาติอย่างอเกวโร ซึ่งมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเกือบทั้งฤดูกาลหรือ กาเบรียล เฆซุส ที่ผลงานเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เป๊ปรู้ดีว่าเมื่อเสียอเกวโรไปพวกเขาจำเป็นต้องได้กองหน้าในระดับเดียวกันมาทดแทน เพราะจำเป็นต่อการสร้างทีมให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกในฤดูกาลหน้า
สำหรับเคนแม้จะไม่ใช่กองหน้าที่ดูปราดเปรียว แต่ความสามารถรอบตัวที่เข้าขั้นสุดยอดไม่ว่าจะเป็นการเก็บบอล ครองบอล จ่ายบอล เล่นสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมไปนั้นเชื่อได้ว่าจะเป็นประโยชน์กับแมนฯ ซิตี้ และเป๊ปจะสามารถหาวิธีใช้งานได้อย่างถูกต้องไม่ยาก
มีซิตี้แล้วก็ต้องมีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย เพราะหนึ่งในจุดที่มีการพูดถึงมาตลอดในทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ คือการขาดศูนย์หน้าฉบับ ‘หมายเลข 9’ ที่จะเป็นศูนย์รวมเกมรุกของทีม ซึ่งช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเป็นปัญหาเพราะทีมทำเกมรุกได้แต่หาโอกาสจบไม่ได้ เพราะศูนย์หน้าไม่ขยับไปที่ว่างหรือจุดนัดพบ
แน่นอนว่าเคนจึงน่าจะเป็นนักเตะในฝันสำหรับโซลชาร์เลยทีเดียว และความจริงแล้วดูน่าจะเล่นได้เข้ากับระบบของทีมแมนฯ ยูไนเต็ดมากกว่าแมนฯ ซิตี้ด้วยซ้ำไป ไม่นับประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเบอร์บาตอฟเองก็เคยมาประสบความสำเร็จที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเหมือนกัน
อย่างไรก็ดี ปัญหาอยู่ที่ราคาของเคนที่สูงอยู่มาก โดยในราคาใกล้เคียงกันมีคู่แข่งอย่างฮาลันด์ที่เชื่อว่าจะย้ายทีมได้หากมีทีมจ่าย 150 ล้านยูโร และมีอายุที่น้อยกว่าถึง 7 ปีด้วยกัน ทำให้ทางด้าน จอห์น เมอร์โท ผู้อำนวยการสโมสรจะต้องทบทวนอย่างหนัก
ยูไนเต็ดเองไม่ได้อยู่ในความจำเป็นเร่งด่วนขนาดนั้นด้วยเมื่อพวกเขาต่อสัญญากับ เอดินสัน คาวานี ที่ทำผลงานร้อนแรงในช่วงปลายฤดูกาลไปอีก 1 ปีเรียบร้อย และยังมี เมสัน กรีนวูด ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงสุดๆ ด้วย
ทฤษฎีที่อาจจะเป็นไปได้คือการใช้วิธี ‘แลกซื้อ’ ด้วยการส่ง อองโตนี มาร์กซิยาล นักเตะที่น่าจะหมดอนาคตในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นนักเตะที่สเปอร์สเองก็เคยสนใจด้วย พร้อมกับยื่นข้อเสนอเป็นเงินอีกจำนวนหนึ่ง
อีกทีมที่อาจจะใช้วิธีเดียวกันคือเชลซี ซึ่งแม้ตัวรุกจะล้นทีมจนแทบจะจัดได้ 2 ชุดสบายๆ แต่นักเตะระดับเคนนั้นถือว่าดีกว่าที่มีอยู่ในทีมทั้งหมดโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตัว ‘ศูนย์หน้า’ จริงๆ อย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หรือ แทมมี อับราฮัม แล้วระดับต่างกันมาก
ความเป็นไปได้คือเชลซีอาจจะส่งอับราฮัม ซึ่งในฤดูกาลที่แล้วเล่นได้ยอดเยี่ยมแต่ไม่ได้รับโอกาสมากนักในฤดูกาลนี้เพื่อเป็นการกล่อมให้สเปอร์สใจอ่อน
แต่หาก มารินา กรานอฟสกายา ผู้อำนวยการสโมสรได้ ‘ใบสั่ง’ มาจาก โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรให้คว้าตัวเคนมาให้ได้ เรื่องเงินก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
สำหรับทีมนอกประเทศนั้นมีชื่อของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และบาร์เซโลนาที่เข้ามาพัวพัน วิธีการก็คงไม่ได้แตกต่างกันมากนักเพียงแต่ความต้องการของเคนคือการเล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไปก่อน ยกเว้นจะไม่มีทางออกจริงๆ หรือมีข้อเสนอที่ดีกว่าจริงก็ค่อยว่ากัน แต่โอกาสสำหรับสองทีมนี้มีน้อย
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงแค่ช่วงของการ ‘อุ่นเครื่อง’ ระหว่างเคน กับเลวี นักเจรจาที่เขี้ยวที่สุดคนหนึ่งของวงการเท่านั้น
สิ่งที่เราคาดกันได้คือไม่ว่าจะมีทีมสนใจกี่ทีม ใครจะยื่นข้อเสนอแบบไหนก็ตาม การเจรจาจะยืดเยื้อยาวนานเป็นมหากาพย์ เป็น ‘แฮร์รี เคน รายวัน’ ที่จะบั่นทอนกัดกินความรู้สึกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนกว่าเลวีจะได้รับสิ่งที่เขาพอใจ หรือมีทางออกที่คิดว่าดีพอสำหรับทีม
และไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสที่เคนจะต้องจำใจอยู่กับสเปอร์สต่อไป
ในเกมฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.bbc.com/sport/football/57188042
- www.bbc.com/sport/football/57154386
- www.bbc.com/sport/football/57219303
- theathletic.com/2580326/2021/05/18/who-to-trade-for-harry-kane/
- www.transfermarkt.com/harry-kane/marktwertverlauf/spieler/132098
- www.football.london/tottenham-hotspur-fc/transfer-news/kane-transfer-man-city-chelsea-20622008
- football-observatory.com/IMG/sites/b5wp/2020/wp330/en/