บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาประเมินสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ในขณะที่อิสราเอลเตรียมการสำหรับสิ่งที่อาจเป็นสงครามที่ยาวนาน และมีผลกระทบด้านมนุษยธรรมอย่างใหญ่หลวง การต่อสู้ที่ยืดเยื้ออาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยไดนามิกไม่หยุดนิ่งของอิสราเอลด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ก่อเหตุโจมตีอิสราเอลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กองกำลังป้องกันของอิสราเอลมีคำสั่งเรียกทหารกองหนุนมากกว่า 300,000 นายมาปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
โดยล่าสุด กองทัพประจำการ กองทัพอากาศ และกองทัพเรือของอิสราเอล ประกอบด้วยสมาชิก 150,000 คน ขณะที่ทหารกองหนุนหลายคนมีประสบการณ์ในการสู้รบมากกว่าทหารอายุน้อยในกองทัพ ซึ่งทหารกองหนุนประกอบด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นครู คนทำงานด้านเทคโนโลยี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เกษตรกร ทนายความ แพทย์ พยาบาล การท่องเที่ยว และคนงานในโรงงาน
Eyal Winter ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮิบรูในกรุงเยรูซาเล็ม ผู้ศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามของอิสราเอล พบว่า สงครามดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จำนวนความเสียหายทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทหารกองหนุนต้องละทิ้งงานในประเทศ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 9 ล้านคน และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศมูลค่า 5.2169 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘อิสราเอล’ ประเทศที่มีประชากรเพียง 9 ล้านคน แต่เต็มไปด้วยคนเก่งสตาร์ทอัพ จนกลายเป็นดินแดนแห่งขุมทรัพย์ Fintech อันดับต้นๆ ของโลก
- พาณิชย์เผย สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ กระทบการค้าไทยแค่ 0.2% ห่วงผลกระทบทางอ้อมต่อราคาน้ำมันและคู่ค้าในตะวันออกกลางหากบานปลาย
Winter อธิบายว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน อุตสาหกรรมที่รับผลกระทบแล้วแทบจะในทันทีก็คืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว กระนั้น เมื่อการต่อสู้ขัดแย้งสิ้นสุดลง ก็มีแนวโน้มทางบวกที่การท่องเที่ยวจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ถามว่าเศรษฐกิจอิสราเอลตอนนี้ยืนอยู่ตรงไหน โดยรวมถือว่าดี โดยขณะนี้ภาคการจ้างงานที่สำคัญหลายแห่งของอิสราเอลจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องในช่วงสงคราม รวมถึงภาคเคมี ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการที่องค์กรทั้งหลายนิยมจ้างงานพนักงานชาวต่างชาติจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน บรรดานักลงทุนในตลาดวอลล์สตรีทมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับปัญหาอุปทานโพแทช สินค้าส่งออกสำคัญของอิสราเอล โดยหุ้นปุ๋ยหลายรายการพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นของ Mosaic และ CF Industries ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 7%
จนถึงขณะนี้ ดัชนีหุ้นหลักของอิสราเอลปรับลดลงแล้ว 6% กระนั้นก็ไม่มีคำเตือนใหม่จากหน่วยงานจัดอันดับเกี่ยวกับหนี้ของอิสราเอลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายต่างกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจก่อนการสู้รบ แต่ส่วนใหญ่ก็เชื่อมั่นว่า แม้สถานการณ์จะดูมืดมนอย่างมากในขณะนี้ แต่ในที่สุด การปฏิรูปประเทศและเศรษฐกิจของอิสราเอลจะสำเร็จลุล่วง โดยหลายฝ่ายเชื่อมั่นว่า ในที่สุดแล้วอิสราเอลจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แม้จะต้องสูญเสียและเสียหายหนักก็ตาม
ขณะเดียวกัน Winter ยังเห็นโอกาสเติบโตในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของอิสราเอลหลังสงครามครั้งนี้ โดยเจ้าตัวอธิบายว่า ในกรณีของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างต่อเนื่องของอิสราเอล เมื่อทหารจำนวนมากกลับบ้าน พวกเขาจะนำประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในสนามรบมาเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจด้านความปลอดภัย โดยอุตสาหกรรมสตาร์ทอัพจะได้รับผลกระทบชั่วคราว แต่เมื่อทหารกลับมา การลงทุนและอุปสงค์ก็จะกลับมาเช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาเกือบทุกแห่งมีสำนักงานการผลิตหรือการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญในอิสราเอล รวมถึง Microsoft, Alphabet, Apple และ Oracle ขณะที่ Intel กำลังลงทุนในโรงงานผลิตที่อยู่ห่างจากชายแดนฉนวนกาซาราว 30 นาที
แม้ว่าจะไม่มีใครแสดงความคิดเห็นโดยตรงเนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย แต่ผู้จัดการด้านเทคโนโลยีขั้นสูงคนหนึ่งในอิสราเอลกล่าวว่า “เนื่องจากมีประสบการณ์ในการอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านระหว่างและหลังโควิด งานจึงสามารถดำเนินต่อไปได้ เว้นแต่พนักงานจะถูกเรียกเข้าสู่หน่วยสำรอง”
อ้างอิง: