วันนี้ (1 พฤศจิกายน) ที่รัฐสภา อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พร้อมด้วย มุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภา เปิดเผยถึงการเจรจาช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันจากสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล
อารีเพ็ญกล่าวว่า ภารกิจดังกล่าวเป็นความประสงค์ของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ที่ให้ส่งตัวแทนเพื่อไปเจรจากับแกนนำขบวนการฮามาสซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการสหรัฐอเมริกาต้องการตัว อีกทั้งประเทศอิหร่านมีความสัมพันธ์อันดีทางการทูตกับประเทศไทย รวมถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับประธานสภา
อารีเพ็ญกล่าวอีกว่า ประเทศอิหร่านนั้นมีอิทธิพลต่อขบวนการฮามาส รวมถึงกลุ่มมุสลิมต่างๆ ในแถบตะวันออกกลางเป็นอย่างมาก ทำให้การเดินทางไปเจรจาในครั้งนี้ได้รับการประสานอย่างดี ซึ่งขบวนการฮามาสนั้นได้ให้ความสำคัญกับการเจรจานี้เป็นพิเศษ และมีเวลาหารือกันถึง 2 ชั่วโมง
จากนั้นจึงได้ไปเข้าพบกับตัวแทนของ ‘อิบราฮิม ไรซี’ ประธานาธิบดีอิหร่าน ประกอบด้วย ‘อยาตุลเลาะห์ อัดตารี’ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีและประธานสมัชชาองค์กรปาเลสไตน์แห่งสำนักประธานาธิบดีอิหร่าน ‘ระมีฮียาน’ เลขาธิการใหญ่องค์การช่วยเหลือประชาชาติปาเลสไตน์แห่งชาติ และ ’รูวัยรอน’ ประธานสมาพันธ์พิทักษ์เยาวชนปาเลสไตน์และต่อต้านอิสราเอลแห่งชาติ เพื่อประสานต่อไปยังขบวนการฮามาสโดยตรง
อารีเพ็ญกล่าวยืนยันว่า ขบวนการฮามาสเข้าใจความปรารถนาของประเทศไทย รวมถึงประธานสภาไทย ที่ต้องการนำคนไทยกลับประเทศอย่างปลอดภัย เพียงแต่สถานการณ์ขณะนี้ยังคงมีความรุนแรง ทำให้ขบวนการฮามาสขอเลือกเวลาที่เหมาะสมก่อนในการปล่อยตัวประกันคนไทยรวมถึงต่างชาติ และไม่เคยคิดทำอันตรายกับตัวประกันโดยเฉพาะคนไทย พร้อมให้การดูแลเป็นอย่างดี และทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตัวประกัน
ส่วนสาเหตุที่ไม่มีการระบุวันเวลาที่แน่ชัดในการปล่อยตัวนั้น อารีเพ็ญเปิดเผยว่า ขบวนการฮามาสเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัยของตัวประกัน เพราะหากมีการระบุถึงวันเวลาในการปล่อยตัวอาจมีการปฏิบัติการที่รุนแรงจากฝ่ายรัฐอิสราเอลได้ และอาจทำให้เป็นข้ออ้างว่าขบวนการฮามาสใช้ตัวประกันเพื่อผลประโยชน์
“หากตัวประกันได้รับการปล่อยตัวและกลับประเทศอย่างปลอดภัยก็ถือเป็นกระบอกเสียงให้กับขบวนการฮามาสด้วยเช่นกันว่า ขบวนการฮามาสไม่ได้กระทำการรุนแรงหรือทารุณกรรมตัวประกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว” อารีเพ็ญย้ำ
ทั้งนี้ในช่วงของการหารือกับขบวนการฮามาส อารีเพ็ญเปิดเผยด้วยว่า ช่วงระหว่างการสู้รบกันอาจมีความเป็นไปได้ที่มีคนต่างชาติได้รับอันตรายหรือเสียชีวิต เนื่องจากขณะนั้นสถานการณ์มีความวุ่นวายจึงไม่สามารถแยกได้ว่าใครเป็นฝ่ายไหน พร้อมกันนั้นตัวแทนขบวนการฮามาสยังได้บอกกับตัวแทนของประธานสภาอีกว่า ขอให้วางใจทางฮามาสจะดูแลตัวประกันไทยเป็นอย่างดี เพราะการมาหารือในครั้งนี้ก็เปรียบเสมือนมิตรสหายด้วยเช่นกัน