วันนี้ (15 สิงหาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ที่เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก สร้างเม็ดเงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ล่าสุดวันนี้เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลังเปิดรับลงทะเบียนให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมโครงการจนกว่าจะประกาศปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ แล้ว และประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต่อไป ให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย โดยคุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผม ทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (Gift Voucher/Gift Card) บัตรเงินสด (Cash Card) และสินค้า/บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระล่วงหน้า (Prepaid) ส่วนในวันที่ 17 สิงหาคม 2565 จะเปิดรับลงทะเบียนร้านอาหารและเครื่องดื่มสมัคร Food Delivery Platform เฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
ธนกรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของประชาชน ซึ่งมีจำนวนสิทธิ 26.5 ล้านสิทธิ จะสามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละ ครึ่งเฟส 5 ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ได้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 และใช้สิทธิในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการ
“โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เป็นโครงการที่ประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าพึงพอใจอย่างมาก เชื่อมั่นว่าการดำเนินการโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มอุปสงค์ในการบริโภค ช่วยเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อีกทั้งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2565” ธนกรกล่าว