วันนี้ (19 สิงหาคม) โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เริ่มให้ลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ผ่านแอป ‘เป๋าตัง’ เพื่อรับสิทธ์ิใช้จ่ายเงิน 800 บาท ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ครอบคลุมสิทธิ์ 26 ล้านคน โดยใช้จ่ายไม่เกิน 150 บาทต่อวัน เริ่มใช้จ่ายในวันที่ 1 กันยายนนี้
THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจเสียงร้านค้าต่างๆ ว่าจะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ที่กำลังจะมาถึงนี้หรือไม่ ซึ่งมีหลากหลายความเห็น ทั้งเข้าร่วม ไม่เข้าร่วม หรือเสียงของความลังเลและความกังวล
มีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้ผู้ที่เคยลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการอยู่แล้วกดยืนยันสิทธิ์ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง ปรากฏว่าแอปไม่สามารถใช้งานได้ โดยธนาคารกรุงไทยแจ้งว่า เนื่องจากมีผู้เข้ามายืนยันสิทธิ์คนละครึ่ง เฟส 5 เป็นจำนวนมาก จึงทำให้แอปเป๋าตังเข้าใช้งานไม่ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไข โดยคาดว่าจะกลับเข้าใช้งานแอปได้ภายใน 1 ชั่วโมง ขออภัยในความไม่สะดวก
แม่ค้าอาหารตามสั่งย่านวังบูรพาที่เคยเข้าโครงการคนละครึ่งบอกว่า ครั้งนี้ไม่เข้าร่วมโครงการแล้ว เนื่องจากจุกจิก เสียเวลา และแอปใช้ไม่ได้บ่อย
ร้านข้าวแกงย่านวังบูรพาบอกว่า ไม่ร่วมโครงการตั้งแต่เฟสที่ 3 เนื่องจากกังวลเรื่องภาษีย้อนหลัง อีกทั้งช่วงนี้วัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารมีราคาปรับตัวสูงขึ้น จึงคิดว่าไม่คุ้มค่ากับการเข้าร่วมโครงการ
ร้านก๋วยเตี๋ยวย่านวังบูรพายืนยันว่าไม่ร่วมโครงการคนละครึ่งครั้งนี้แล้ว เนื่องจากกังวลเรื่องภาษีย้อนหลัง
ร้านก๋วยเตี๋ยวย่านคลองถมลังเลว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ เนื่องจากมีหลายคนพูดถึงการเก็บภาษีย้อนหลัง ทำให้ไม่มั่นใจ แต่รายได้จากการขายของที่ร้านก็ไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี
ร้านข้าวหมูแดงย่านวังบูรพาบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ครั้งนี้จะไม่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอย่างแน่นอน เนื่องจากทางร้านโดนเก็บภาษีย้อนหลังมาแล้ว
ร้านขายน้ำย่านวังบูรพายืนยันว่ายังเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งต่อไป เนื่องจากร้านของตนเองขายราคาถูกและขายได้จำนวนไม่มากนัก อีกทั้งยังต้องรักษาลูกค้าประจำไว้ จึงจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการ
ร้านขายน้ำย่านวรจักร ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งตั้งแต่เริ่มต้น แต่ทางร้านได้มีการแจ้งปรับขึ้นราคาตามขนาดของแก้วน้ำขนาดละ 5 บาท โดยเริ่มตั้งแต่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา
ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่านคลองถมที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งบอกว่า ครั้งนี้จะไม่เข้าร่วม เนื่องจากกังวลเรื่องภาษีย้อนหลัง ขณะที่ทางร้านได้แจ้งปรับราคาเพิ่มขึ้น 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ร้านขายเครื่องตัดผมและอุปกรณ์สำหรับขับขี่มอเตอร์ไซค์เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งบอกว่า ครั้งนี้จะไม่เข้าร่วม เนื่องจากระบบจ่ายเงินช้าและล่มบ่อย อีกทั้งร้านของตนเป็นร้านที่เน้นขายของถูกและได้กำไรน้อย จึงคิดว่าไม่คุ้มกับการเข้าโครงการ โดยเธอไม่ได้กังวลเรื่องการถูกเก็บภาษีย้อนหลังแต่อย่างใด
ร้านขายของเล่นย่านสำเพ็งที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งบอกว่า ตอนนี้ยังลังเลว่าจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ เนื่องจากคนรู้จักหลายคนที่เข้าร่วมโครงการพูดถึงการเก็บภาษีย้อนหลัง