×

ร้านค้าลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง พลัส’ วันแรก สำเร็จกว่า 79,736 ราย

16.10.2025
  • LOADING...
ร้านค้าลงทะเบียน คนละครึ่ง พลัส วันแรก สำเร็จกว่า 79,736 ราย

ร้านค้าลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง พลัส’ วันแรก กว่า 79,736 ราย และอยู่ระหว่างขั้นตอนรับสมัครอีก 107,457 ราย

 

วันนี้ (16 ตุลาคม) กระทรวงการคลังเผย ความคืบหน้า โครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ หลังเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นวันแรก โดยระบุว่า จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 9.00 น. มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้

 

ร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสำเร็จแล้ว 79,736 ราย แบ่งเป็น

 

  • ร้านค้าเดิม 62,276 ราย
  • ร้านค้าใหม่ 7,460 ราย

 

ร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัคร 107,457 ราย แบ่งเป็น

 

  • รอให้ร้านค้าเข้ามากดยอมรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการ 102,150 ราย
  • รอดำเนินการตรวจสอบ 5,307 ราย

 

ทั้งนี้ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ระหว่างการประชาสัมพันธ์โครงการคนละครึ่งว่า จากฐานข้อมูลร้านค้าเดิม พบว่า มีร้านค้าที่ลงทะเบียนอยู่ราว 9 แสนรายในระหว่างโครงการ คนละครึ่ง เฟส 5 แต่ด้วยตัวโครงการห่างหายไปนาน จึงทำให้ปัจจุบันเหลือผู้ประกอบการที่ยังแอ็กทีฟอยู่เพียงเกือบ 1 แสนรายเท่านั้น ซึ่งโครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ ครั้งนี้ ดร.เอกนิติ ตั้งเป้าให้มียอดลงทะเบียนร้านค้าให้สูงกว่ายอดเดิมที่ 9 แสนราย

 

สำหรับร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568

 

วิธีลงทะเบียนสำหรับร้านค้ารายเดิม

 

โดยร้านค้าเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 จะต้องอัปเดตแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ก่อน หากผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติในแอปพลิเคชันจะปรากฏปุ่ม ‘คนละครึ่ง พลัส’ ให้กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการได้

 

ทั้งนี้ ร้านค้าถุงเงินที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 (ปี 2565) และพบปุ่ม ‘คนละครึ่ง พลัส’ คือ ร้านค้าที่ภาครัฐมีฐานข้อมูลตรวจสอบได้ชัดเจนแล้วว่า ร้านค้านี้มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้ กรณีไม่พบปุ่ม ‘คนละครึ่ง พลัส’ จำเป็นต้องสมัครเข้าร่วมโครงการใหม่

 

วิธีลงทะเบียนสำหรับร้านค้ารายใหม่

 

ส่วนร้านค้ารายใหม่ สามารถลงทะเบียนผ่านสาขาของธนาคารกรุงไทยฯ หรือจุดตั้งบูธของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทยฯ

 

ทั้งนี้ กรณีร้านค้าที่ต้องได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ ปลัดเทศบาล เป็นต้น หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร เพื่อลงนามยืนยันการประกอบกิจการจริงในแบบฟอร์มการสมัครก่อนนำไปยื่นที่สาขาของธนาคารกรุงไทยฯ หรือจุดตั้งบูธของกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทยฯ เพื่อดำเนินการเปิดแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และสมัครเป็นร้านค้าคนละครึ่ง พลัสต่อไป

 

ทั้งนี้ การยืนยันการประกอบกิจการโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร ถือเป็นกระบวนการตามปกติที่ดำเนินการในโครงการคนละครึ่งในระยะก่อนหน้านี้

 

เนื่องจากโครงการปัจจุบันได้เว้นช่วงจากโครงการคนละครึ่งระยะก่อนหน้ามาพอสมควร ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้มีขั้นตอนยืนยันการประกอบกิจการโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกครั้งหนึ่ง

 

อย่างไรก็ดี สำหรับร้านค้าบางรายที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 และเป็นผู้ที่กระทรวงการคลังมีฐานข้อมูลสามารถตรวจสอบได้ว่ายังคงประกอบกิจการอยู่ เช่น ผู้ประกอบการขนส่งที่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ ร้านธงฟ้าร้าน OTOP เป็นต้น

 

กระทรวงการคลังได้ใช้ฐานข้อมูลดังกล่าวเพื่อการอำนวยความสะดวกโดยลดขั้นตอนไม่ต้องให้ร้านค้ากลุ่มนี้ขอรับการยืนยันการประกอบกิจการจากเจ้าหน้าที่ของรัฐอีก แต่สามารถกดปุ่มโครงการในแอปพลิเคชันถุงเงินเพื่อเข้าร่วมโครงการได้ทันที

 

วิธีลงทะเบียนประชาชนทั่วไป

 

ในส่วนของการลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยการติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ และยืนยันตัวตน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’

 

ทั้งนี้ โครงการฯ จะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนสำหรับประชาชนวันแรกในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 – 22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวน 20 ล้านคน หรือจนกว่าจะครบวงเงินสิทธิในวงเงินไม่เกิน 44,000 ล้านบาท หรือถึงปิดลงทะเบียนวันสุดท้ายในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์รายละเอียดการลงทะเบียนของประชาชนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

 

อนึ่ง ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ และรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ คนละครึ่ง พลัส

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising