×

สรุปที่เดียวจบ! ทุกรายละเอียด ‘คนละครึ่ง พลัส’ และ ‘โครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ลงทะเบียนอย่างไร เมื่อไหร่?

09.10.2025
  • LOADING...
คนละครึ่ง พลัส

สรุปที่เดียวจบ! ทุกรายละเอียด ‘คนละครึ่ง พลัส’ และ ‘โครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ลงทะเบียนอย่างไร เมื่อไหร่? ใครเข้าร่วมได้บ้าง ใช้สิทธิอย่างไร?

 

คุณสมบัติหลักของกลุ่มเป้าหมาย

  • มีกลุ่มเป้าหมาย 20 ล้านคน ประกอบด้วย ประชาชนทั่วไป และผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 91, 95) ของปีภาษี 2567
  • มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  • ไม่เป็น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568.
  • ไม่เป็น ผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการคนละครึ่งในระยะก่อนหน้า

 

ได้รับสิทธิเท่าไหร่?

รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีวงเงินสิทธิรวมตลอดโครงการแตกต่างกันตามกลุ่ม ดังนี้:

  • กลุ่มผู้ยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด. (90, 91, 94): ได้รับวงเงินรวมสูงสุด 2,400 บาทต่อคน.
  • กลุ่มประชาชนทั่วไป: ได้รับวงเงินรวมสูงสุด 2,000 บาทต่อคน

 

เปิด Timeline ช่วงเวลาสำคัญ

  • ระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งหมด คือ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
  • เปิดรับลงทะเบียนร้านค้า: ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568
  • เปิดรับลงทะเบียนประชาชน: ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม – 26 ตุลาคม 2568 (เวลา 06.00-22.00 น.)
  • ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิได้: ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00-23.00 น.) ทั้งนี้ สำหรับการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหารสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00-21.00 น.)

 

วงเงินและแหล่งเงิน

จำนวนไม่เกิน 44,000 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจาก (1) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนไม่เกิน 25,000 ล้านบาท (2) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 19,000 ล้านบาท

 

สิทธิประโยชน์

ได้รับสิทธิสนับสนุนวงเงินไม่เกิน 200 บาท ต่อคนต่อวัน ในจำนวนวงเงินสิทธิ ดังนี้

  1. ไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน สำหรับประชาชน ผู้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90, ภ.ง.ด. 91 หรือ ภงด. 94 หรือ
  2. ไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน สำหรับประชาชนทั่วไป ตลอดระยะเวลาโครงการ

 

ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง?

  • สิทธิสามารถใช้ซื้อ อาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการนวด/สปา/ทำเล็บ/ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ
  • สินค้าที่ไม่ร่วมโครงการ: สลากกินแบ่ง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ผลิตภัณฑ์ยาสูบ, บัตรกำนัล, บัตรเงินสด, และบริการที่ชำระล่วงหน้า

 

วิธีการลงทะเบียน (สำหรับประชาชน)

  • ผู้ที่เคยใช้สิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 5: ต้องยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
  • ผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 5: ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
  • ผู้ได้รับสิทธิต้องทำการพิสูจน์ตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่สาขาหรือตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย (ยกเว้นผู้ที่เคยพิสูจน์ตัวตนกับโครงการรัฐอื่นแล้ว)

 

วิธีการใช้จ่ายสำหรับประชาชน

  • ผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิในโครงการฯ ดังนี้ ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนด ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
  • ซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ โดยใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ทั้งนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารหรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด 
  • ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนที่ภาครัฐร่วมจ่ายตามโครงการฯ

 

ย้ำใช้สิทธิครั้งแรก ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้!

ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ครั้งแรก ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ

 

ประมาณการผลต่อเศรษฐกิจ

การดำเนินโครงการฯ จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 88,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21-0.22 ในปี 2568 เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการฯ และเมื่อผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น จะช่วยก่อให้เกิดการผลิต การค้าขาย การจ้างงานและการคมนาคมขนส่งตามมา ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจะเอื้อให้ภาครัฐสามารถ จัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป

 

สรุป! โครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568!

โครงการนี้เป็นมาตรการชั่วคราวที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความเปราะบางสูงและบรรเทาภาระค่าครองชีพในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว

 

ใครคือกลุ่มเป้าหมายและได้รับเท่าไหร่?

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ตามโครงการลงทะเบียนปี 2565) ณ วันที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งมีจำนวน ไม่เกิน 13.4 ล้านคน

 

วงเงินที่ได้รับเพิ่ม:

  • ผู้มีบัตรฯ จะได้รับวงเงินเพิ่มเติมอีก 850 บาทต่อคนต่อเดือน
  • หมายเหตุ: วงเงิน 850 บาทนี้เป็นการเพิ่มจากวงเงินเดิมที่ได้รับอยู่แล้ว 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • รวมตลอดโครงการ: แต่ละคนจะได้รับวงเงินเพิ่มรวมทั้งสิ้น 1,700 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ (850 บาท x 2 เดือน)

 

ระยะเวลาและวิธีการใช้จ่าย

  • ระยะเวลาดำเนินการ: โครงการนี้มีระยะเวลา 2 เดือน คือตั้งแต่วันที่ พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2568
  • การใช้จ่าย: วงเงินที่ได้รับเพิ่มนี้ใช้สำหรับซื้อ:
    • สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
    • สินค้าเพื่อการศึกษา
    • วัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม
    • สินค้าเหล่านี้ต้องซื้อจาก ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านค้าอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
  • ข้อควรจำ: วงเงินที่ได้รับในเดือนใด หากใช้ไม่หมด จะไม่สามารถสะสมไปใช้ในเดือนถัดไปได้

 

แหล่งงบประมาณ

โครงการนี้ต้องใช้เงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 22,780 ล้านบาท โดยขอรับการจัดสรรจาก งบกลาง (รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ของปีงบประมาณ พ.ศ.2568

  • การบริหารเงิน: เงินนี้จะถูกจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังสำหรับ กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (กองทุนฯ) เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้มีบัตรฯ ต่อไป
  • สถานะเงินกองทุน: แม้ว่ากองทุนฯ จะมีเงินคงเหลืออยู่ ณ วันที่ 17 กันยายน 2568 จำนวน 1,220 ล้านบาทเศษ แต่เงินจำนวนนี้มีภาระผูกพัน มีแผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายรองรับไว้แล้ว จึงไม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาดำเนินโครงการเพิ่มวงเงินฯ ได้

 

ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อน:

หากรัฐบาลมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ในระยะต่อไป ไม่ควรนำผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธินี้แล้วเข้าร่วมอีก เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมาย

 

ประมาณการณ์ผลต่อเศรษฐกิจ

เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าธงฟ้าและร้านอื่นๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568 การกระตุ้นนี้คาดว่าจะช่วยให้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.07-0.08 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีโครงการ

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising