สรุปที่เดียวจบ! ทุกรายละเอียด ‘คนละครึ่ง พลัส’ และ ‘โครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ลงทะเบียนอย่างไร เมื่อไหร่? ใครเข้าร่วมได้บ้าง ใช้สิทธิอย่างไร?
คุณสมบัติหลักของกลุ่มเป้าหมาย
- มีกลุ่มเป้าหมาย 20 ล้านคน ประกอบด้วย ประชาชนทั่วไป และผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 91, 95) ของปีภาษี 2567
- มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ไม่เป็น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568.
- ไม่เป็น ผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนจากโครงการคนละครึ่งในระยะก่อนหน้า
ได้รับสิทธิเท่าไหร่?
รัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยมีวงเงินสิทธิรวมตลอดโครงการแตกต่างกันตามกลุ่ม ดังนี้:
- กลุ่มผู้ยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด. (90, 91, 94): ได้รับวงเงินรวมสูงสุด 2,400 บาทต่อคน.
- กลุ่มประชาชนทั่วไป: ได้รับวงเงินรวมสูงสุด 2,000 บาทต่อคน
เปิด Timeline ช่วงเวลาสำคัญ
- ระยะเวลาดำเนินโครงการทั้งหมด คือ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568
- เปิดรับลงทะเบียนร้านค้า: ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 19 ธันวาคม 2568
- เปิดรับลงทะเบียนประชาชน: ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม – 26 ตุลาคม 2568 (เวลา 06.00-22.00 น.)
- ประชาชนผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิได้: ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00-23.00 น.) ทั้งนี้ สำหรับการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหารสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 (เวลา 06.00-21.00 น.)
วงเงินและแหล่งเงิน
จำนวนไม่เกิน 44,000 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจาก (1) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนไม่เกิน 25,000 ล้านบาท (2) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 19,000 ล้านบาท
สิทธิประโยชน์
ได้รับสิทธิสนับสนุนวงเงินไม่เกิน 200 บาท ต่อคนต่อวัน ในจำนวนวงเงินสิทธิ ดังนี้
- ไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน สำหรับประชาชน ผู้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90, ภ.ง.ด. 91 หรือ ภงด. 94 หรือ
- ไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน สำหรับประชาชนทั่วไป ตลอดระยะเวลาโครงการ
ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง?
- สิทธิสามารถใช้ซื้อ อาหาร, เครื่องดื่ม, สินค้าทั่วไป, บริการนวด/สปา/ทำเล็บ/ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ
- สินค้าที่ไม่ร่วมโครงการ: สลากกินแบ่ง, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ผลิตภัณฑ์ยาสูบ, บัตรกำนัล, บัตรเงินสด, และบริการที่ชำระล่วงหน้า
วิธีการลงทะเบียน (สำหรับประชาชน)
- ผู้ที่เคยใช้สิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 5: ต้องยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
- ผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิคนละครึ่ง ระยะที่ 5: ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
- ผู้ได้รับสิทธิต้องทำการพิสูจน์ตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่สาขาหรือตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย (ยกเว้นผู้ที่เคยพิสูจน์ตัวตนกับโครงการรัฐอื่นแล้ว)
วิธีการใช้จ่ายสำหรับประชาชน
- ผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้สิทธิในโครงการฯ ดังนี้ ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนด ทั้งนี้ ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’
- ซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ โดยใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ทั้งนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารหรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด
- ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสนับสนุนที่ภาครัฐร่วมจ่ายตามโครงการฯ
ย้ำใช้สิทธิครั้งแรก ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้!
ผู้ได้รับสิทธิจะต้องใช้สิทธิโครงการฯ โดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯ ครั้งแรก ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ
ประมาณการผลต่อเศรษฐกิจ
การดำเนินโครงการฯ จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ จำนวน 88,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21-0.22 ในปี 2568 เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการฯ และเมื่อผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น จะช่วยก่อให้เกิดการผลิต การค้าขาย การจ้างงานและการคมนาคมขนส่งตามมา ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจะเอื้อให้ภาครัฐสามารถ จัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
สรุป! โครงการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568!
โครงการนี้เป็นมาตรการชั่วคราวที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความเปราะบางสูงและบรรเทาภาระค่าครองชีพในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว
ใครคือกลุ่มเป้าหมายและได้รับเท่าไหร่?
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ตามโครงการลงทะเบียนปี 2565) ณ วันที่ 1 กันยายน 2568 ซึ่งมีจำนวน ไม่เกิน 13.4 ล้านคน
วงเงินที่ได้รับเพิ่ม:
- ผู้มีบัตรฯ จะได้รับวงเงินเพิ่มเติมอีก 850 บาทต่อคนต่อเดือน
- หมายเหตุ: วงเงิน 850 บาทนี้เป็นการเพิ่มจากวงเงินเดิมที่ได้รับอยู่แล้ว 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- รวมตลอดโครงการ: แต่ละคนจะได้รับวงเงินเพิ่มรวมทั้งสิ้น 1,700 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ (850 บาท x 2 เดือน)
ระยะเวลาและวิธีการใช้จ่าย
- ระยะเวลาดำเนินการ: โครงการนี้มีระยะเวลา 2 เดือน คือตั้งแต่วันที่ พฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2568
- การใช้จ่าย: วงเงินที่ได้รับเพิ่มนี้ใช้สำหรับซื้อ:
- สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
- สินค้าเพื่อการศึกษา
- วัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม
- สินค้าเหล่านี้ต้องซื้อจาก ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านค้าอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
- ข้อควรจำ: วงเงินที่ได้รับในเดือนใด หากใช้ไม่หมด จะไม่สามารถสะสมไปใช้ในเดือนถัดไปได้
แหล่งงบประมาณ
โครงการนี้ต้องใช้เงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 22,780 ล้านบาท โดยขอรับการจัดสรรจาก งบกลาง (รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น) ของปีงบประมาณ พ.ศ.2568
- การบริหารเงิน: เงินนี้จะถูกจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลังสำหรับ กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (กองทุนฯ) เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้มีบัตรฯ ต่อไป
- สถานะเงินกองทุน: แม้ว่ากองทุนฯ จะมีเงินคงเหลืออยู่ ณ วันที่ 17 กันยายน 2568 จำนวน 1,220 ล้านบาทเศษ แต่เงินจำนวนนี้มีภาระผูกพัน มีแผนการดำเนินงาน และแผนการใช้จ่ายรองรับไว้แล้ว จึงไม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาดำเนินโครงการเพิ่มวงเงินฯ ได้
ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อน:
หากรัฐบาลมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ในระยะต่อไป ไม่ควรนำผู้มีบัตรฯ ที่ได้รับสิทธินี้แล้วเข้าร่วมอีก เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมาย
ประมาณการณ์ผลต่อเศรษฐกิจ
เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าธงฟ้าและร้านอื่นๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2568 การกระตุ้นนี้คาดว่าจะช่วยให้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.07-0.08 ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีโครงการ