เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 สิงหาคม) แพลตฟอร์ม Poly Network ซึ่งเป็น Cross-Chain Bridge ชื่อดังที่ให้บริการโอนสินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายต่างๆ บนบล็อกเชน ถูกแฮ็กเกอร์อาศัยช่องโหว่ของระบบในการเข้าโจมตี จนสามารถขโมยเงินออกไปได้กว่า 600 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1.9 หมื่นล้านบาท นับเป็นปริมาณเงินที่ถูกแฮ็กมากสุดในประวัติศาสตร์บนโลก DeFi
แฮ็กเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการแฮ็กดังกล่าวได้โอนเหรียญที่ขโมยมาได้ไปยังเครือข่ายอื่นๆ บนบล็อกเชน เช่น Ethereum, Binance Smart Chain และ Polygon ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง ‘Poly Network’ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ขอให้ผู้ขุดและเว็บกระดานเทรดขึ้นบัญชีดำ (Blacklist Address) ของนักแฮ็กเหล่านั้นในทันที
ขณะเดียวกัน Poly Network ยังได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก พอลโล อาร์โดโน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของ Tether ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเหรียญ USDT ที่เป็น Stablecoin (เหรียญที่อิงมูลค่ากับเงินดอลลาร์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง) ที่เป็นที่นิยมในโลก DeFi ได้ประกาศแช่แข็งเหรียญ USDT มูลค่ากว่าพันล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ Poly Network แล้ว
นอกจากนี้ ชางเพ็งเจา หรือ Cz ประธานบริหารของ Binance กระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดัง ได้ทวีตข้อความออกมาว่าได้ยื่นความช่วยเหลือเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยเขาระบุว่า บริษัทกำลังประสานงานกับพันธมิตรด้านความปลอดภัยเพื่อช่วยดูแลในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม Cz ก็ได้กล่าวว่า ไม่มีใครสามารถควบคุม Binance Smart Chain ได้อยู่ดี เพราะระบบดังกล่าวไม่มีตัวกลางที่ใครจะเข้าไปควบคุมได้ (DeFi) ดังนั้น จึงไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะกู้คืนเหรียญมาได้
อ้างอิง: