แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีที่ผ่านมาจะมียอดขายลดลงอย่างน่าใจหายในหลายๆ ประเทศทั่วโลก สืบเนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นของโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกัน เทรนด์ ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ก็ได้เข้ามาจับกระแสความสนใจของผู้บริโภคและหน่วยงานจำนวนมากได้ทันท่วงที ส่งผลให้เราเริ่มเห็นความคึกคักของตลาด EV เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไทม์ไลน์เดียวกัน
ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motors: GWM) ได้ประกาศเปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด ‘Experience Your New xEV World’ ที่ต้องการจะเปิดประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในรูปลักษณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค หลังจากที่ซุ่มดำเนินกิจการในไทยมานานกว่า 1 ปีเต็ม โดยได้เปิดตัวรถยนต์ใน 2 แบรนด์แรก คือ HAVAL และ ORA และเตรียมจะเปิดตัวรวม 4 โมเดล ภายในปี 2564 นี้
สำหรับรถยนต์ที่ทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดตัว ประกอบด้วย
- ORA Good Cat – รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% แบรนด์ ORA ที่มาในรูปลักษณ์สุดคลาสสิกผสมผสานกับดีไซน์ความโฉบเฉี่ยวแบบฟิวเจอริสติก โดยถือเป็น EV รุ่นแรกที่ทาง GWM จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทย
- All New HAVAL H6 – รถยนต์โมเดลเอสยูวีจากแบรนด์ Haval ที่ทำยอดขายรวมได้มากกว่า 6 ล้านคันทั่วโลก และทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา มีจุดเด่นอยู่ที่การจัดเต็มนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ในตัวรถแบบครบเครื่อง
อย่างไรก็ดี การเปิดตัวในครั้งนี้ ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังให้ข้อมูลของรถยนต์ทั้ง 2 โมเดลแบบคร่าวๆ เท่านั้น รวมถึงยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องสี สเปกรถ และราคาจำหน่ายของรถยนต์ทั้ง 2 แบรนด์ โดยตั้งเป้าไว้ว่า ภายใน 3 ปีนี้ พวกเขาจะต้องเปิดตัวรถยนต์วางขายในไทยรวมทั้งหมด 9 รุ่นให้ได้ (อีกสองแบรนด์ที่เหลือคือ Poer โมเดลกระบะ และ WEY โมเดลเอสยูวีไฮเอนด์)
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า GWW จะเน้นการดำเนินธุรกิจในไทยผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบไปด้วย 1. xEV Leader – การเป็นผู้นำด้านรถพลังงานไฟฟ้า กับ Mission ‘9 in 3’ ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยรถยนต์แทบทั้งหมดจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
- Consumer Voice Focus – การรับฟังเสียงของผู้บริโภค โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะรับฟังเสียงสะท้อนของลูกค้าเป็นหลักในการวางแผนธุรกิจ และนำมากำหนดแนวทางการทำการตลาดและการให้บริการ เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับการให้บริการในทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ดีที่สุด
และ 3. New User Experience – สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่างๆ มาทำ New User Experience Concept ผ่านขบวนการ Design Thinking เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภคที่จะเริ่มต้นตั้งแต่การค้นหาข้อมูล, การเปรียบเทียบรุ่นรถ, การทดสอบรถ, การเลือกซื้อรถ, การขอสินเชื่อ, การส่งมอบรถ, การบริการ และการสร้างความสุขตลอดการเป็นเจ้าของรถผ่านกิจกรรมต่างๆ แบบ O2O
“เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบยานยนต์และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทย และพร้อมที่จะช่วยผลักดันการสร้างอีโคซิสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และศักยภาพของบุคลากรไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลและเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน” ณรงค์กล่าว
นอกจากนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยังบอกอีกด้วยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะใช้โรงงานอัจฉริยะของพวกเขาที่จัดตั้งในจังหวัดระยองตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเป็นฐานทัพการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของบริษัท และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน
ที่สำคัญ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ตอบตกลงกับ BOI ที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเทคโนโลยี ช่วยยกระดับการพัฒนาบุคลากรไทยให้มีความรู้ ความชำนาญ และทักษะที่จำเป็นสำหรับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล