×

กันย์ พันธ์ุสุวรรณ ผู้กำกับเรื่อง ๙ ศาสตรา กับแพสชันที่แม้แต่เงิน 230 ล้านก็ซื้อไม่ได้

12.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

6 Mins. Read
  • ๙ ศาสตรา คือแอนิเมชันฝีมือคนไทยที่เริ่มจากการคุยกันเองเล่นๆ ว่าจะทำแอนิเมชันดีๆ สักเรื่องให้กับเมืองไทย โดยวางงบประมาณตอนแรกไว้ที่ 60 ล้านบาท และจบด้วย 230 ล้านบาทในเวลาต่อมา
  • กันย์ พันธ์ุสุวรรณ ไม่เคยกำกับหนังใหญ่มาก่อน และเลือกที่จะทำหนังเรื่องนี้ด้วยความรัก ความตั้งใจ และแพสชันที่จะพาแอนิเมชันฝีมือคนไทยไปไกลถึงระดับโลกให้ได้
  • กันย์ให้ความสำคัญกับเรื่องความไพเราะของเสียงไม่แพ้ความสวยงามของภาพ และยอมลงทุน 21 ล้านบาทเพื่อทำดนตรีประกอบแอนิเมชันเรื่องนี้ขึ้นมา
  • ถ้าไม่มีข่าวเรื่อง sexual harassment เกิดขึ้นมาก่อน ๙ ศาสตรา จะได้ฉายที่อเมริกาด้วยฝีมือของโปรดิวเซอร์รุ่นใหญ่ที่ชื่อฮาร์วีย์ ไวน์สตีน

 

 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกคนได้ยิน ได้เห็น ได้รับชมข่าวและกระแสตอบรับที่ดีของ ๙ ศาสตรา ด้วยโปรดักชันที่ยิ่งใหญ่ รวมทีมงานมีฝีมือมากกว่า 200 ชีวิต การหยิบเรื่องการผจญภัยต่อสู้กับความไม่ถูกต้องด้วยศาสตร์ประจำชาติอย่างมวยไทย พร้อมกับเงินลงทุน 230 ล้านบาท ทำให้ ๙ ศาสตรา คือแอนิเมชันฝีมือคนไทยที่น่าสนใจที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

หลายคนอาจจะคิดว่าเงิน 230 ล้านบาทคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ แต่ THE STANDARD ไม่เชื่อว่า ‘เงิน’ เพียงอย่างเดียวจะสามารถเนรมิตทุกอย่างได้ตามต้องการ และการได้คุยกับ กันย์ พันธ์ุสุวรรณ ผู้กำกับไฟแรงที่ไม่เคยทำหนังมาก่อนในชีวิต แต่ต้องมาแบกเงินจำนวน 230 ล้านเอาไว้บนบ่า ทำให้เรายิ่งได้คำตอบที่ชัดเจนว่า ทัศนคติและแพสชันต่างหากที่จะแปรเปลี่ยนเงินมหาศาลให้กลายเป็นผลงานที่มีคุณภาพได้จริงๆ

 

เริ่มต้นจากความฝันเล็กๆ กับแอนิเมชันขนาดสั้น 7 นาที

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากความฝันของเพื่อนๆ และคนในครอบครัวที่รวมกันกลายเป็นบริษัท Exformat Films ที่นำเสนอในแนวแอ็กชัน ผจญภัย แฟนตาซี เราคุยกันว่าอยากทำหนังแอนิเมชันสักเรื่อง คิดกันไว้ว่าตอนแรกใช้ทุนแค่ 30 ล้านบาท แต่เผื่อเหนียวไว้หน่อยเลยเพิ่มเป็น 60 ล้านบาท ระดมทุนกัน 10 คนในกลุ่มญาติๆ และเพื่อนสนิท คิดว่าเซฟๆ ยังไงก็ได้แน่นอน

 

แต่ด้วยความที่ทุกคน โดยเฉพาะผมค่อนข้างใหม่กับการทำหนัง เราเริ่มต้นด้วยการลองผิดลองถูกทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งการเขียนบท ทำแอนิเมติก ตัดต่อ แก้กันไปแก้กันมา สุดท้ายผ่านไป 2 ปี สิ่งที่ได้กลับมาคือแอนิเมชันความยาว 7 นาทีถ้วน (หัวเราะ) ด้วยความตื่นเต้น ได้มาปุ๊บเราก็เช่าโรงหนังที่พารากอน จัดฉายให้ทีมงาน ให้คนใกล้ตัวไปดู เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำมามันได้คุณภาพพอที่จะฉายในโรงภาพยนตร์จริงๆ หรือเปล่า ดูกันแค่ 7 นาทีนั่นแหละ ซึ่งผลที่ได้กลับมาคือเราทำได้ดีแล้ว แต่ยังดีไม่พอ ในตอนนั้นหลายคนพูดกับผมแล้วนะครับว่า โห ทำได้แค่นี้ก็พอแล้ว แต่ผมคิดว่าไม่ได้ เราสามารถทำได้มากกว่านี้ 10 คนนั้นเลยกลับมาคุยกันอีกครั้ง และเห็นตรงกันว่าพวกเรายังไปต่อได้ มองหน้ากันและยินดีที่จะควักเงินเพิ่มโดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลจะออกมาเป็นยังไง และงบทั้งหมดจะไปจบที่ตรงไหน

 

 

เพราะทุกอย่างมีต้นทุน งบประมาณเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับความทะเยอทะยานที่เพิ่มเป็นเงาตามตัว และสุดท้ายจบลงที่ 230 ล้านบาท

จากตอนแรกเราทำกันแค่ไม่กี่สิบคน เลยใช้เวลานานถึง 2 ปีเพื่อแลกกับ 7 นาทีที่ได้ ตอนนั้นเลยคิดว่าเราต้องเพิ่มคนเป็นอันดับแรก สิ่งที่ผมมองเป็นเรื่องใหญ่นอกจากฝีมือคือแพสชัน ทัศนคติ และดีเอ็นเอของทีมงาน ๙ ศาสตรา ทุกคน คือต้องมีความเชื่อว่าคนไทยมีความสามารถที่จะไประดับโลกได้ ส่วนไหนขาด เรายินดีที่จะเติมทั้งหมดเพื่อให้ได้ทีมงานทำหนังที่สมบูรณ์ที่สุด สุดท้ายรวมทุกฝ่ายเราน่าจะมีประมาณ 200 กว่าคน คิดง่ายๆ ว่าเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท ทำด้วยกันประมาณ 2 ปีครึ่ง ต้นทุนมันก็ไปอยู่ตรงนั้นแทบทั้งหมดแล้ว

 

ยังไม่นับค่าเครื่องมือต่างๆ ที่เราต้องซื้อเข้ามาใหม่เพื่อให้สามารถสร้างงานได้จากทีมงานของเราทั้งหมด บางฉากเราอาจจะเห็นแค่ 5 วินาที แต่นั่นก็คือเงินหลักล้านบาทแล้ว งานแอนิเมชันเป็นงานที่ต้องการความละเอียดสูงมาก เหงื่อไหล ร้องไห้ เป็นเงินทั้งหมด บางทีมีเส้นผมหลุดเข้าไป เนื้อผมเส้นเล็กๆ แค่นั้นเลยนะ แต่ต้องแก้ใหม่ทั้งหมด นั่นก็โดนไปอีกเท่าไรแล้ว ภาพน้ำไหลนิดนึงอีกหนึ่งล้านบาท ทุกอย่างพร้อมจะทำให้เราพร้อมจะหยุดได้ตลอดเวลา แต่โชคดีทัศนคติเพียงอย่างเดียวคือเราต้องทำหนังเรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุดให้ได้ ทำให้ไม่มีการต้องมานั่งคุยกันว่าจะเอายังไงต่อดีแม้แต่ครั้งเดียว

 

บรรยากาศการคุยงานระหว่างกันย์ และไรอัน ชอร์ (คนกลาง) คอมโพสเซอร์ระดับโลก

 

ไรอัน ชอร์ คอมโพสเซอร์ระดับโลกที่มาพร้อมกับเงิน 21 ล้านบาท

หลายคนจะมองว่าแอนิเมชันสำคัญที่ภาพ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ทั้งหมด เรื่องเสียงก็เป็นความท้าทายที่ยากมากๆ เหมือนกัน เพราะเวลาทำหนังเรายังมีเสียงพูด เสียงแอมเบียนต์ประกอบฉากต่างๆ แต่เสียงในแอนิเมชัน ทุกอย่างเป็นศูนย์หมด เราต้องคิดเสียงขึ้นมาจากบทแล้วจินตนาการว่าเสียงอาวุธต่างๆ เสียงการต่อสู้จะออกมาเป็นแบบไหน เพลงที่ใช้ควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งพี่ไก่ (สุธี แสงเสรีชน) มิวสิกไดเรกเตอร์ของเราคิดการใหญ่ ยืนยันกับผมว่าดนตรีประกอบแอนิเมชันเรื่องนี้ต้องเป็นไลฟ์ออร์เคสตราเท่านั้น

 

จนเราได้คุยกับไรอัน ชอร์ (คอมโพสเซอร์ซีรีส์ชุด Star Wars Forces of Destiny) จากตอนแรกที่โอเคว่ามีไลฟ์ออร์เคสตรา ก็คิดว่าไว้ว่าจากหนัง 102 นาที เต็มที่มีสัก 60 นาทีก็หรูแล้ว แต่เขาบอกเลยว่าไม่ได้ ของเราต้องใช้ไลฟ์ออร์เคสตรา 102 เต็ม ไม่ว่าจะได้ยินหรือไม่ได้ยินในหนัง แต่เขาต้องอัดทั้งหมด ใช้เครื่องดนตรี 90 ชิ้น ซึ่งพอได้เห็นทุกอย่างแล้วรู้เลยว่าทำไมเพลงที่เราได้ยินในหนังฮอลลีวูดมันถึงดีขนาดนั้น เชื่อไหมครับ นักดนตรีที่มาเล่นไม่เคยได้ดูหนังของเรามาก่อน แต่แค่เขาอ่านโน้ต เขาสามารถร้องไห้และหัวเราะไปตามโน้ตที่เขาได้รับแบบถูกต้องมาก แล้วทุกตัวละครก็ต้องมีธีมดนตรีของตัวเอง แล้วค่อยเอามาประกอบกัน

 

รู้เลยว่าไรอัน ชอร์ เป็นคนที่ละเอียดมาก ความโชคดีคือตอนแรกเฉพาะค่าตัวพื้นฐานให้มาทำดนตรีอย่างเดียวก็อยู่ที่ 7 แสนเหรียญ หรือประมาณ 21 ล้านบาทอยู่แล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขที่แพงมากและคิดไม่ถึงสำหรับเรา แต่พอเขาเห็นตัวหนังที่เราเอาไปให้ดู คงเห็นถึงความตั้งใจ เขาเลยยอมลดค่าตัวส่วนของเขาให้เพื่อไปจ่ายค่านักดนตรีที่เหลือ ทำให้สุดท้ายงบฝั่งดนตรีเลยไม่ต้องบานปลายมากขนาดนั้น

 

ส่วนหนึ่งของทีมนักดนตรีที่มาอัดไลฟ์ออร์เคสตราให้กับ ๙ ศาสตรา

 

ผลงานถูกใจฮาร์วีย์ ไวน์สตีน จนเกือบได้ฉาย แต่สุดท้ายกันย์เลือกถอนตัว เพราะประเด็น sexual harassment

พอทำหนังทุกอย่างเสร็จ ขั้นตอนสำคัญที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตอีกเหมือนกันก็คือการเอาหนังไปขาย บอกได้เลยว่าพวกเราไปมาเกือบหมดทุกที่ พาราเมาต์, โซนี่, วอร์เนอร์ส, ดรีมเวิร์กส์ มีใครให้โอกาสเข้าไปคุย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ผมบินตรงไปหาเดี๋ยวนั้นทันทีแบบไม่ต้องคิด ซึ่งทุกที่บอกว่าชอบเหมือนกันหมด แต่เขาไม่ต้องการหนังที่ไม่มีคนรู้จัก เพราะว่าขายยาก เพราะหนังที่ไปฉายในอเมริกาต้องใช้เงินอย่างน้อย 20-30 ล้านเหรียญในการโปรโมตอย่างเดียว

           

จนมีคนรู้จักกับฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ใหญ่ของฮอลลีวูด ตอนนั้นเขายังไม่มีข่าวเรื่อง sexual harassment เอาหนังไปให้ เขาดูแค่ 15 นาทีก็บอกว่าชอบ แล้วบอกให้รีบบินไปหา ผมก็รีบซื้อตั๋วบินไปหาที่นิวยอร์กตอนนั้นเลย คุยกันไปมาจนได้เซ็นสัญญาเรียบร้อย เตรียมฉายที่อเมริกา แต่สุดท้ายเขามีข่าวเรื่อง sexual harassment ออกมา เราเลยตัดสินใจถอนตัวออกมาจากเขาดีกว่า เสียดายเหมือนกันนะที่โอกาสมาถึงขนาดนั้นแล้ว แต่สุดท้ายคิดว่าเราเลือกทางที่ถูกต้องแบบนี้น่าจะดีกว่า เลยต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่กับการขายหนังอีกครั้ง จนตอนนี้เซ็นสัญญาที่จีนเรียบร้อย ก็ต้องดูกันว่าจะเป็นยังไง ส่วนที่อื่นๆ ก็จะพยายามต่อไปให้หนังไปได้ไกลที่สุด

 

 

4 ปีครึ่งที่ร้องไห้มากที่สุดตั้งแต่เกิดมา แต่ด้วยรักและศรัทธา ๙ ศาสตรา จึงได้กำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้

กับแฟนผมยังไม่ร้องไห้ขนาดนี้เลยมั้ง (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ แต่เป็นช่วงที่ร้องไห้เยอะที่สุดในชีวิตจริงๆ นะครับ ทั้งผิดหวัง ทั้งดีใจ ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ เป็นช่วงที่ครบทุกรสชาติชีวิตมาก งบประมาณก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่บอก ระหว่างทำมีหลายคนที่บอกว่าหยุดเถอะ ไปทำแค่หนังสือการ์ตูนอย่างเดียวดีกว่า แม่ก็ด่าว่ามึงไม่เคยทำหนังมาก่อน จะทำขนาดนี้ทำไม แต่ผมคิดว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องแรก แต่อาจจะหมายถึงเรื่องสุดท้ายในชีวิตของผม เพราะฉะนั้นผมอยากทำมันให้ดีที่สุด จะร้องไห้ก็ร้องไห้เพราะมัน ดีใจก็ดีใจเพราะมัน แต่อย่างน้อยได้โอกาสแล้วขอทำให้เต็มที่ที่สุด พาหนังไทยออกไปให้ไกลที่สุดดีกว่า

 

ซึ่งสุดท้ายต้องขอบคุณทุกคนที่คอยซัพพอร์ตผมมากๆ โดยเฉพาะญาติและเพื่อนๆ 10 คนใน Exformat Films ที่ทำให้รู้ว่าการมีคนร่วมผิดหวังด้วยกันมันช่วยเราได้มากขนาดไหน ผมอยากพูดตรงนี้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผู้กำกับแค่คนเดียว แต่ 10 คนนี้ถือว่าเป็นผู้กำกับร่วมกันทั้งหมด รวมทั้งทีมงานอีก 200 กว่าชีวิตที่มาอยู่ด้วยกัน จำนวนเงินและงบประมาณที่เราใช้ไปกับหนังเรื่องนี้มันอาจจะเยอะมากก็จริงนะครับ แต่ผมเชื่อว่าหัวใจที่พวกเราทุกคนจ่ายออกไปมีค่ามากกว่านั้น และพวกผมรู้สึกคุ้มแล้วที่ได้ทุ่มความตั้งใจทุกอย่างลงไปมากขนาดนี้ และคิดว่าหนังที่ออกมาก็จะคุ้มค่ากับเงินค่าตั๋วของทุกคนเหมือนกัน

FYI
  • ก่อนหน้าที่จะเป็นผู้กำกับ กันย์เคยสอบผ่านจนได้ระดับโปรกอล์ฟที่อเมริกาตามความฝันของคุณแม่ที่ชอบไทเกอร์ วูดส์ มาก และอยากให้ลูกเป็นแบบนั้น
  • กันย์เรียนจบจากมหาวิทยาลัย Arizona State ที่เลือกเพราะว่าขึ้นชื่อในเรื่อง Party School อันดับหนึ่ง และเลือกเรียนในสาขาจิตวิทยา เพราะอยากทำความเข้าใจคนให้ได้มากที่สุด และสามารถนำมาใช้ในการจีบผู้หญิงได้ดี
  • เหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ หรือคุณพ่อของน้องจิน ในเพจ Little Monster คืออีกหนึ่งเรี่ยวแรงสำคัญในฐานะฝ่ายมาร์เก็ตติ้งและโปรดิวเซอร์ที่ร่วมกันปั้นโปรเจกต์ ๙ ศาสตรา มาตั้งแต่แรก
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising