บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ( GULF ) อนุมัติให้บริษัทย่อย Gulf Energy USA ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับกลุ่ม J-POWER เพื่อซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ขนาดกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 49% หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นจำนวนกว่า 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท คาดเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการภายในเดือนธันวาคม 2565
โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ตั้งอยู่ในเขตวิลล์ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ มีขนาดกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโครงข่ายระหว่างเพนซิลเวเนีย-นิวเจอร์ซีย์-แมริแลนด์ (PJM)
โดย PJM เป็นตลาดซื้อขายไฟฟ้าแบบเสรี (Merchant Market) ที่มีความมั่นคงและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในสหรัฐฯ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 13 รัฐ ได้แก่ เดลาแวร์, อิลลินอยส์, อินดีแอนา, เคนทักกี, แมริแลนด์, มิชิแกน, นิวเจอร์ซีย์, นอร์ทแคโรไลนา, โอไฮโอ, เพนซิลเวเนีย, เทนเนสซี, เวอร์จิเนีย, เวสต์เวอร์จิเนีย และเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย
โครงการ Jackson มีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจากผู้ให้บริการก๊าซธรรมชาติรายใหญ่และเชื่อมต่อกับท่อก๊าซหลักถึง 3 เส้น ทำให้สามารถจัดหาเชื้อเพลิงให้กับโครงการได้อย่างพอเพียงในระยะยาว
ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า “การลงทุนในโครงการ Jackson ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ GULF ในการเข้าสู่ตลาดพลังงานของสหรัฐฯ โดยโครงการนี้ถือหุ้นทั้งหมดโดย Jackson Partners ภายใต้กลุ่ม J-POWER ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นพันธมิตรของบริษัทมามากกว่า 20 ปี และเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในกลุ่ม Gulf JP ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP โรงแรกๆ ของบริษัท
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอื่น รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวยังเป็นไปตามแผนการดำเนินงานของบริษัทที่จะยกระดับความมั่นคงด้านพลังงาน ด้วยการผลิตไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและต้นทุนต่ำในช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เนื่องจากโครงการ Jackson เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined-Cycle Gas Turbine) ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำที่สุดในสหรัฐฯ