คงเถียงไม่ได้ว่าบทบาทของวงการลักชัวรีในปี 2023 ถือว่ามหาศาล เติบโตอย่างก้าวกระโดด และพร้อมขับเคลื่อนสังคมที่ไม่เพียงแค่เรื่องเทรนด์การแต่งตัวอีกต่อไป แต่ทั้งในเรื่องของธุรกิจ วัฒนธรรม ศิลปะ และอีกมากมาย โดยแบรนด์ที่เป็นตัวแปรสำคัญก็คงหนีไม่พ้น Gucci ซึ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาถือว่าอยู่ภายใต้ความกดดันไม่น้อย หลัง Sabato De Sarno ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ที่ถูกเลือกมาแทบไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และก่อนประกาศข่าวมีคนตามใน Instagram แค่หลักพันเท่านั้น (แต่ตอนนี้เกินแสนแล้ว)
“รอด ไม่รอด?”, “ปังหรือพัง”, “จะอยู่ได้กี่ซีซัน?” นี่เป็นเพียงบางคำถามที่มีการถกเถียงกันภายในวงการแฟชั่นเมื่อมีการประกาศว่า Sabato De Sarno จะมาลีด Gucci ซึ่งก็รู้ดีว่าในยุคสมัยนี้กราฟเส้นทางชีวิตของครีเอทีฟไดเรกเตอร์แบรนด์ยักษ์ใหญ่สั้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะบทบาทของเขาหรือเธอไม่ใช่แค่ทำเสื้อผ้าที่สวยเพื่อไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ หรือให้ดาราฮอลลีวูดเอาไปเดินพรมแดงออสการ์ แต่สิ่งที่กลับสำคัญสุดในยุคนี้คือคอลเล็กชันต้องตอบโจทย์เรื่องเชิงพาณิชย์และทำให้คนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกอยากเป็นเจ้าของ
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 กันยายน) ได้ถึงเวลาที่ Sabato De Sarno จะนำเสนอผลงานแรกที่ Gucci กับคอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ซึ่งสำหรับเราก็ต้องบอกว่าลงตัว ฉลาด ใส่ได้จริง และบริษัทแม่ของ Gucci อย่าง Kering ก็เล่นเกมถูกที่เลือกดีไซเนอร์ Low Profile มาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ แทนที่จะเป็นศิลปินดาราหรือดีไซเนอร์ที่มาพร้อมชื่อเสียงกับฟอลโลเวอร์นับล้านคน
กับทั้งหมด 55 ลุคที่จัด ณ Gucci Hub ที่กรุงมิลาน กับรันเวย์ที่ได้ Mark Ronson มาทำเพลงประกอบให้ ทาง Sabato De Sarno เหมือนเขียนเช็กลิสต์ขึ้นมาอย่างถูกทุกข้อว่าคอลเล็กชันที่เพอร์เฟกต์สำหรับ Gucci ในปี 2023 คืออะไร ซึ่งหลายคนก็อาจจะบอกว่ามีความเป็นมินิมัล มีความคล้ายยุค Tom Ford หรือมีฟีลของแบรนด์ที่ทางดีไซเนอร์วัย 40 ปี คนนี้เคยทำมาก่อน แต่สำหรับเราแล้ว นั่นแหละคือเสน่ห์ของผลงาน Sabato De Sarno ที่สามารถนำหลายอย่างมาปรุงกันเพื่อผลิตสไตล์ของตัวเอง
ความเก่งของ Sabato De Sarno คือเขาไตร่ตรองและคิดมาแล้วอย่างถี่ถ้วนว่าทุกลุคจะนำเสนออะไรตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบ Complete Look กับทั้งชุด กระเป๋า เครื่องประดับ แว่นตา และรองเท้า โดยสิ่งที่ต้องยกย่องคือเขาพยายามทำให้เห็นว่าผู้หญิงฉบับ Gucci ในยุคของเขาคือผู้หญิงที่ทำได้หลายอย่าง มีหลายเฉดในตัวเอง และไม่ต้องโดนจำกัดความว่าเป็นสไตล์เดียว ซึ่งใน 55 ลุคก็มีทั้งเดรสทรง Babydoll, เบลเซอร์แจ็กเก็ต, เสื้อสเวตเตอร์, แจ็กเก็ตหนัง, โค้ตยาว, เสื้อกล้าม, กางเกงยีนส์, แจ็กเก็ตยีนส์ จนถึงชุดเดรสค็อกเทลสั้นสารพัด, กระเป๋า Jackie ในเวอร์ชันนับไม่ถ้วน และรองเท้าแพลตฟอร์มส้นตึก ซึ่งแต่ละชิ้นมีความเป็น Permanent Classic ที่ดูน่าลงทุน และสำหรับ Gucci เองก็สามารถวางขายในร้านได้อยู่เรื่อยๆ แบบไม่ต้องอิงกับแต่ละซีซัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ยังต้องติดตามดูต่อไปว่า Gucci ในยุค Sabato De Sarno จะถูกพัฒนาและเดินหน้าต่อไปในทิศทางไหน เพราะต้องจำไว้ว่าแฟชั่นโชว์เป็นแค่พาร์ตแรกของแต่ละคอลเล็กชัน และยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องพิสูจน์ต่อไป ซึ่งถ้าอิงจากคอลเล็กชัน Spring/Summer 2024 ก็หายห่วงได้ และต้องบอกว่า Welcome Back Gucci!
ภาพ: Getty Images