“อเลสซานโดร มิเคเล จะทำอะไรต่อไป?” น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตของคนที่ติดตามวงการแฟชั่น ที่รอชมว่าทางครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Gucci ตั้งแต่ปี 2015 จะนำพาแบรนด์ไปถึงจุดไหน ท่ามกลางสถานการณ์ของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมากับวิกฤตโควิด-19 ซึ่ง Gucci เองก็ได้ก้าวมาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญและผู้นำของวงการ ที่สามารถหาสูตรสำเร็จที่แบรนด์อื่นๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่าได้พยายามทำตาม โดยเฉพาะในการที่จะเข้าหากลุ่มลูกค้า Gen ใหม่
ล่าสุดเมือคืนที่ผ่านมา (17 กรกฎาคม) ทาง Gucci ได้นำเสนอคอลเล็กชัน Epilogue ในรูปแบบการทำไลฟ์สตรีมยาว 12 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงเบื้องหลังและขั้นตอนการสร้างสรรค์แคมเปญของคอลเล็กชันนี้ ที่ถ่ายทำ ณ ตึก Palazzo Sacchetti ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่อเลสซานโดรได้ตัดสินใจนำบริบทเบื้องหลังการทำงานในวงการแฟชั่นมาถ่ายทอดให้ดูกันเบื้องหน้า คล้ายกับแฟชั่นโชว์ Fall/Winter 2020 ที่นำเสนอเป็นรูปแบบเบื้องหลัง ซึ่งเราก็ต้องชื่นชมอเลสซานโดรและ Gucci เพราะวงการแฟชั่นมักถูกตีค่าจากเปลือกนอก และหลายคนคิดว่ามีแต่ความฟุ่มเฟือย คนไม่ทำอะไรกัน แต่งตัวกันบ้าๆ เพื่ออวดรวยผ่านอินสตาแกรม และดื่มแต่แชมเปญตลอดเวลา แต่ที่จริงแล้วแฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่มีคุณค่า มีเม็ดเงิน และมีขั้นตอนการทำธุรกิจมากมายที่หลายคนอาจไม่ได้สัมผัส ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่ Gucci ได้ผลักดันให้เห็นตรงนี้
โดยบริบทเรื่องราวเบื้องหลังการทำงาน ก็ได้ถูกต่อยอดกับลุคบุ๊กของคอลเล็กชันที่อเลสซานโดรได้ให้บรรดาดีไซเนอร์และทีมงานเบื้องหลังของแต่ละชุดมาเป็นแบบเอง ไม่ว่าจะเป็นดีไซเนอร์ฝั่งเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย เซเลบริตี้ เด็ก แอ็กเซสซอรี รองเท้า แว่นตา หรือแผนกรีเสิร์ช ซึ่งมีการระบุชื่อและตำแหน่งบนโพสต์อิตอย่างชัดเจน โดยเราก็ต้องชื่นชมอเลสซานโดรอีกรอบ ที่ตัดสินใจอยากยกย่องและให้สปอตไลต์ส่องไปที่ทีมงานของตัวเอง แทนที่จะเป็นแค่รูปกลุ่มธรรมดาทั่วไป และให้ตัวครีเอทีฟไดเรกเตอร์โดดเด่นอยู่ตรงกลาง แถมท่ามกลางประเด็นเรื่องความหลากหลายในวงการแฟชั่นที่เป็นที่พูดถึงมากมายในตอนนี้ เราก็ได้เห็นว่า Gucci ได้ทำจริงกับทีมงานที่มีคนทุกรูปแบบ ซึ่งการันตีว่าแบรนด์ไม่ได้แค่โหนกระแสและใช้เป็นการตลาดอย่างเดียว
ปิดท้ายที่ตัวเสื้อผ้าเอง แน่นอนอเลสซานโดรก็ยังคงใช้หลักสูตรเดิมที่คุ้นเคยกันดีกับกลิ่นอายความ Gender-Fluid ผสมกับความเป็นวินเทจยุค 70 กับบรรดาสีสันและลวดลายสุดจัดจ้าน ส่วนไอเท็มที่เราเชื่อว่ามีลูกค้าทั่วโลกได้ไปลงชื่อใน Waiting List แล้วก็คือ กระเป๋าลายโดราเอมอน ซึ่งทุกซีซัน Gucci ‘ฉลาด’ ที่นำไพ่ใบนี้มาเล่น โดยการนำตัวการ์ตูนสุดไอคอนิกมาตีพิมพ์บนสินค้า อาทิ Mickey Mouse, Bugs Bunny หรือ Donald Duck ซึ่งก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเป็นสินค้า Collector’s Item และที่สำคัญกว่าคือ เป็นสินค้าที่พอคุณถ่ายลงบนโซเชียลมีเดีย ก็เตรียมได้คอมเมนต์ว่า “อยากได้ๆๆๆ”, “กรี๊ดดด” “สวยปัง”, “สายแฟ”, “Exclusive!” หรืออะไรก็แล้วแต่อย่างแน่นอน
* สามารถชมไลฟ์สตรีมย้อนหลังได้ที่นี่:
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า