ธนาคารออมสินและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนด้านสินเชื่อสิทธิพิเศษสำหรับธุรกิจ SMEs ที่เป็นสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประมาณ 1 แสนราย ภายใต้ ‘โครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน’
วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ธนาคารออมสินจะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดให้แก่สมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
- สินเชื่อ GSB Smooth BIZ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 2.99% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท
- สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจ Small SMEs สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนสัญญาขายฝาก ให้กู้โดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 70 ของราคาประเมินราชการ ไม่ตรวจเครดิตบูโร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี
นอกจากนี้ สมาชิกหอการค้าฯ ยังสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่ออื่นตามมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ได้ตามความประสงค์ เช่น สินเชื่อ Soft Loan สำหรับ SMEs ท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง, สินเชื่อ Soft Loan ธปท. เพื่อฟื้นฟูกิจการ เป็นต้น
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อและเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และได้ตั้งเป้าหมายไว้เป็นภารกิจแรกๆ ที่ต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยธนาคารออมสินได้ร่วมดำเนินการความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้ร่วมกับหอการค้าฯ ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ผ่านโครงการต่างๆ ของธนาคารออมสิน และสินเชื่อสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และขยายเวลามาตรการสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิดสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการขยายขอบข่ายความร่วมมือไปยังเครือข่ายหอการค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการเงิน และหน่วยงานต่างๆ ตามแนวทาง Connect the Dots เชื่อมจุด เชื่อมโอกาส ให้กับผู้ประกอบการอย่างแท้จริง และช่วยส่งเสริมสนับสนุนในการพัฒนาผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโต และรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2565” สนั่นกล่าว