วันนี้ (20 เมษายน) พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีประเด็นฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ว่า เรื่องนี้มีการศึกษาในระดับนานาชาติ ทั้งจีน อินเดีย พบว่า ฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งในหลอดทดลองมีฤทธิ์ต้านไวรัสได้อย่างน่าสนใจ โดยปีที่ผ่านมาทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการทดลองว่า เมื่อมาอยู่ในเซลล์ร่างกายจะป้องกันโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ ปรากฏว่าไม่สามารถป้องกันไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และต้องมีมาตรการป้องกันโรคเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม การศึกษาฟ้าทะลายโจรนั้นพบว่า สารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ฆ่าไวรัสในหลอดทดลอง และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางตัว อีกทั้งฟ้าทะลายโจรยังเป็นยาลดไข้ที่ดี นอกจากนี้ ยังค้นพบว่าในโควิด-19 มีภาวการณ์อักเสบ จึงพบว่าฟ้าทะลายโจรลดการอักเสบ และส่งเสริมภูมิคุ้มกันได้
“กรมการแพทย์แผนไทยได้รับความร่วมมือจาก 9 โรงพยาบาลในการศึกษาวิจัยโดยผู้ป่วยจำนวน 304 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการน้อยให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรในขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งพบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้น โดยไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง อาจมีเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือถ่ายเหลว แต่ไม่มาก จึงคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกในการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ขณะเดียวกันได้ขยายการใช้ยานี้ในโรงพยาบาบสนาม โดยโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้นำไปใช้ เมื่อมีความก้าวหน้าจะเผยแพร่ต่อไป” พญ.อัมพรกล่าว
พญ.อัมพรย้ำด้วยว่า แม้จะมีประโยชน์ แต่ฟ้าทะลายโจรก็มีข้อห้ามในการใช้เช่นกัน เช่น ผู้ป่วยรายใดมีประวัติเคยแพ้ฟ้าทะลายโจร หากรับประทานครั้งแรกมีผื่นคันขึ้นต้องหยุดใช้ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตรก็ไม่ควรใช้ รวมทั้งผู้ป่วยโรคตับ โรคไตก็ต้องหลีกเลี่ยง และผู้ที่มีโรคประจำตัว และรับประทานยาประจำ โดยเฉพาะยาลดการแข็งตัว อย่าง ยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ซึ่งเป็นยาที่จ่ายให้กับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเส้นเลือดหัวใจตีบต้องระวัง และผู้ป่วยที่รับประทานยาลดความดันโลหิตก็ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์