นอกจากเนื้อเรื่องที่ฉูดฉาด การแสดงที่ถึงพริกถึงขิง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราจำละครไทยเรื่องต่างๆ ได้ดีคือวลีและประโยคเด็ดของตัวละครที่นักเขียนบทบรรจงสร้างขึ้นมาให้กลายเป็นภาพจำ ถึงแม้ว่ารูปประโยคเหล่านั้นเราจะไม่ค่อยเอามาใช้ในชีวิตประจำวันก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าพอพูดขึ้นมา ภาพของละครที่เคยดูก็ย้อนกลับมาให้ได้สนุกกันอีกครั้ง
THE STANDARD POP ขอคัด 7 วลีและประโยคเด็ดของละครไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไว้ให้ลิปซิงก์หรืออัปสกิลการต่อปากต่อคำ ย้ำว่านี่แค่บางส่วนเท่านั้น ถ้าใครจำประโยคไหน จากละครเรื่องไหนได้อีก คอมเมนต์ใต้โพสต์นี้แบบต่อบทได้เลยนะคะคุณพี่วิกันดา อรพร้อม!
ฟัง โลกคือละคร EP.2 สู้เขาสิวะอีหญิง! วิเคราะห์ 5 ตัวละครหญิงไทยที่สะท้อนภาพสังคมในเวลานั้นๆ ไว้ได้ที่นี่
ติดตาม ‘โลกคือละคร’ พอดแคสต์ใหม่ล่าสุดจาก THE STANDARD POPCAST ที่จะชวนคุณมาดูละครแล้วย้อนดูตัว สำรวจโลกจำลองที่สะท้อนสังคมไว้ในนั้น ลงตอนใหม่ทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น. ทาง YouTube ของ THE STANDARD POP และทุก Podcast Player!
แม้จะสร้างกันมาหลายต่อหลายเวอร์ชัน แต่เรื่องราวสุดคลาสสิกของ ดร.อนิรุทธิ์ ดร.วิกันดา และอรอินทร์ ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่เสมอ เพราะนอกจากความสัมพันธ์ของผู้ชายมากเมียที่เหมือนจำลองสังคมมาจริงๆ ภาพจำของผมทรงขั้นบันไดของ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา ในเวอร์ชันช่อง 3 และการแสดงสุดนิ่งแต่คำพูดบาดลึกของ ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ ในเวอร์ชันช่อง 7 ก็ยังถูกตัดเป็นคลิปสั้นและรีพีตซ้ำอยู่เสมอ ส่วนประโยคดังกล่าวเป็นเพียงหนึ่งในหลายไดอะล็อกที่ ดร.วิกันดาพูดสวนการด่ารัวๆ ของอรอินทร์ด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ จนเรียกได้ว่านี่คือละครเมียหลวงเวอร์ชันที่ไดอะล็อกแซ่บที่สุดก็ว่าได้
ย้อนไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว การปะทะบทบาทกันของนางเอกแถวหน้าอย่าง คัทลียา แมคอินทอช และ นุสบา ปุณณกันต์ คือปรากฏการณ์ของละครไทยที่หลายคนจับตามอง แถมเนื้อเรื่องของ เมืองมายา มีฉากหลังเป็นเรื่องวงการบันเทิง ทำให้ละครสุดเชือดเฉือนเรื่องนี้ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง โดยเฉพาะฉากจำที่ รัญชลี (นุสบา) เจอเพื่อนเก่าที่แข่งขันกันมาตั้งแต่เด็กอย่าง ภาวิดา (คัทลียา) แถมยังเป็นนางเอกในช่องเดียวกัน แต่รัญชลีที่มีพื้นฐานทางบ้านร่ำรวยกว่าได้ใส่ชุดที่ตัดมาเพื่อตัวเองพอดีเป๊ะ ส่วนภาวิดาต้องใส่ชุดที่กองถ่ายเตรียมไว้ให้ ‘ชุด’ ในเรื่องจึงกลายเป็นเครื่องมือการแซะของตัวละครที่แสดงอำนาจที่เหนือกว่า จนกลายเป็นประโยคเด็ดที่ชมแค่ชุดอย่างเดียวของรัญชลี
จากตัวละครที่ไม่เคยปรากฏในเวอร์ชันไหนของ แรงเงา แต่ รัชนก ลูกน้องออฟฟิศเดียวกับมุตตาเวอร์ชันล่าสุดคือตัวละครโด่งดังและสร้างชื่อให้กับ ชลธิชา นวมสุคนธ์ จนกลายเป็นมีมให้เซฟทั่วโซเชียล เพราะพฤติกรรมนกสองหัวภายใต้ใบหน้าที่ใสซื่อ ที่แม้ว่า แรงเงา ภาค 2 จะเปิดเผยที่มาที่ไปของตัวละครตัวนี้มากขี้น แต่ก็ยังไม่สามารถกลบพฤติกรรมการปั่นหัวของน้องนกในภาคแรกได้ เอาเป็นว่าใครที่กำลังเหนื่อยอยู่ตอนนี้อยากให้รู้ว่า “พี่ตาสู้ๆ นะคะ”
ธิดาซาตาน ละครแฟนตาซีที่ว่าด้วยเรื่องของ ธารใส, เพลิงพิศ, เอื้องทราย และ วายุตา กลุ่มเพื่อนสาวที่มีพลังวิเศษ ซึ่งนักแสดงนำส่วนหนึ่งคือผู้เข้าแข่งขันเรียลลิตี้ The Face Thailand อย่าง สกาย, เจสซี่, เทีย และคนที่จะลืมไม่ได้คือ ฟิลลิปส์ ทินโรจน์ ในบทของ เชนทร์ พระเอกของเรื่องที่เพิ่งชนะการแข่งขันมาหมาดๆ ทำให้ภาษาไทยของ ‘น้อง’ ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก เราเลยได้ประโยคจำจากละครเรื่องนี้มากมาย ทั้ง “ยัยธารใส พรุ่งนี้ไอจะขยี้ยูให้แหลก” “ยูไม่มีสิทธิ์พูดถึงแม่ไอ” “อย่าลืมเอาซองมาแจกล่ะ ไอจะได้ช่วยใส่ซอง” ซึ่งแม้ว่าการออกเสียงจริงๆ ของฟิลลิปส์จะไม่ได้ง่ายอย่างที่พิมพ์ไปข้างต้น แต่หลายประโยคของเขาก็ทำให้เราจำละครเรื่องนี้ได้
คงไม่มีใครลืม เหม่เกว, โรส หรือคุณนายที่ 3 ในละคร มงกุฎดอกส้ม เวอร์ชันช่อง 7 ที่สวมบทบาทโดย สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์ นางงิ้วที่งามที่สุดในบรรดาเมียของ เจ้าสัวเชงสือเกียง ที่นอกจากจะร้องงิ้วอย่างเดียวดายในคฤหาสน์ลึกลับแล้ว เธอมักปะทะคารมกับคุณนายที่ 2 ที่ถูกเรียกว่า ‘นางแมงป่องสารพักพิก’ แล้ว เวลาไม่สบอารมณ์ก็มักจะตามด้วยคำสร้อยที่ว่า ‘ม่ายล่ายหลั่งใจ’ ทุกครั้ง จนวลีนี้ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองในเวลานั้น ถึงกับขนาดที่ ยุ้ย ญาติเยอะ เอาไปตั้งเป็นชื่อเพลงลูกทุ่งด้วย แม้ว่าสุดท้ายจุดจบของโรสจะเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าแค่ไหนก็ตาม
ไม่น่าเชื่อว่าแม้จะผ่านไปกว่า 10 ปีแล้ว แต่ละคร ดอกส้มสีทอง ยังสร้างมีมและประโยคฮิตมากมายด้วยการเขียนบทโทรทัศน์ฝีมือของ ศัลยา นักเขียนบทชั้นครูที่สร้างให้ตัวละครสุดทะเยอทะยานอย่าง ‘เรยา’ และตัวละครที่รายล้อมอื่นๆ ผลิตประโยคจำคำคมออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะประโยคที่แสดงพื้นเพของตัวละครโดยที่ไม่ต้องพูดมากมาย รวมถึงประโยคของ เด่นจันทร์ ที่สรุปคาแรกเตอร์ของเรยาไว้อย่างชัดเจน “อย่างเธอก็เป็นแค่ดอกไม้ริมทาง ถึงสีจะสวยดี แต่ก็ไม่มีใครเอาใส่แจกัน เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเธอเป็นแค่ดอกไม้สีทอง!”
ก่อนคู่ขวัญ ‘ศรราม-สุวนันท์’ จะดังเป็นพลุแตกในละครเรื่อง ดาวพระศุกร์ ทั้งคู่เคยเป็น ‘เหินฟ้า’ และ ‘สวย’ ในละครเรื่อง ผยอง ที่ไม่ว่าใครในยุคนั้นต้องไปหาที่โล่งแจ้งตะโกนชื่อตัวละครกันสุดเสียง
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต