วานนี้ (24 มกราคม) ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพกรุงเทพมหานคร (ศฉส.กทม.) ครั้งที่ 2/2566 ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและหารือแนวทางป้องกันโรค รวมถึงสร้างเสริมสุขภาพให้ประชาชน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จะมีนักท่องเที่ยวชาติชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องติดตามสถานการณ์โควิด และเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขรองรับการดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยว รวมถึงเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งสำนักอนามัยได้ประสานให้สำนักงานเขตกวดขันสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการดำเนินการจัดให้พนักงานได้รับวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบ 4 เข็ม อีกทั้งประสานสถานประกอบการในพื้นที่ในการสุ่มตรวจ ATK พนักงานที่ให้บริการในสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการที่ให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA) อย่างเคร่งครัด
ส่วนสถานการณ์โรคโควิดทั่วโลก แนวโน้มพบผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิตคงตัว ทั้งในประเทศแถบเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ขณะที่ประเทศจีนมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นในหลายเมือง
สถานการณ์โรคโควิดในประเทศไทย มีแนวโน้มพบผู้ป่วย ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นมาตรการป้องกันการป่วยรุนแรงด้วยวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่ม 608 และลดการแพร่โรคด้วยมาตรการป้องกันส่วนบุคคล และการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้ให้บริการภาคการท่องเที่ยวและคมนาคม รวมทั้งเน้นเฝ้าระวังโรคในสถานพยาบาล สถานที่เสี่ยง แหล่งท่องเที่ยว ท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เน้นการสื่อสาร แนะนำแนวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเข้มงวด เช่น เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท ล้างมือบ่อยๆ ตรวจหาเชื้อโควิดหากมีอาการทางเดินหายใจ เน้นให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบ 4 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นเมื่อฉีดเข็มสุดท้ายมากกว่า 4 เดือน เนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโควิดที่พบส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ไม่เคยรับการฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 4 เข็ม พร้อมทั้งเน้นย้ำให้สถานประกอบการ ร้านอาหาร สนามมวย สนามกีฬา ตลาด วัด และสถานที่ต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป ให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID-FREE Setting ส่วนโรงแรม ร้านอาหารต่างๆ ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA และ SHA Plus