Grab ผู้ให้บริการซูเปอร์แอปฯ ฉลองครบรอบ 6 ปี การให้บริการในประเทศไทย พบสถิติเรียกใช้บริการการเดินทาง ส่งอาหารและส่งของรวมมากกว่า 320 ล้านครั้ง คิดเป็นระยะทางให้บริการมากถึง 1.2 พันล้านกิโลเมตร เทียบเท่าระยะทางที่สามารถเดินทางจากเหนือจรดใต้ของประเทศไทยได้ถึง 700,000 เที่ยว
หลังให้บริการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2012 ปัจจุบันลูกค้าที่ใช้บริการ Grab มากที่สุด เรียกใช้บริการไปแล้วมากถึง 7,000 เที่ยว สั่งอาหารกว่า 670 ออร์เดอร์ และส่งพัสดุไปแล้ว 2,500 ชิ้น (Grab ให้บริการในปัจจุบันครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัด 18 เมือง)
สถิติที่น่าสนใจคือ 1 ใน 3 ของผู้โดยสาร Grab เป็นชาวต่างชาติ โดยตั้งแต่ปี 2017-2019 แพลตฟอร์ม Grab ได้ให้บริการชาวต่างชาติไปแล้วมากถึง 5 ล้านรายจากประเทศต่างๆ เช่น จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย สะท้อนให้เห็นถึงการเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนภาคธุรกิจและเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
สำหรับในครึ่งปีหลังนี้ Grab จะผลักดันพัฒนาการให้บริการใน 2 ส่วนหลักๆ ประกอบด้วย
1. Grab Food หนึ่งในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้สูงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา Grab Food มียอดส่ง 3 ล้านออร์เดอร์ แต่ช่วง 4 เดือนแรกของปี 2019 นี้ Grab Food ส่งไปแล้วกว่า 4 ล้านออร์เดอร์ ชี้ให้ถึงความนิยมได้เป็นอย่างดี และคาดว่าเป้าหมายการส่ง 20 ล้านออร์เดอร์ในปีนี้น่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
2. เปิดให้บริการ ‘แกร็บเพย์ พาวเวอร์ บาย เคแบงก์ โมบายล์ วอลเล็ต’ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนาระบบการชำระเงินแบบไร้รอยต่อ รวมถึงบริการทางการเงินในรูปแบบอื่นๆ เบื้องต้นจะเปิดให้บริการชำระค่าบริการในเครือของ Grab ‘ภายในสิ้นเดือนนี้’ หลังจากนั้นช่วงปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 จะสามารถจ่ายในร้านค้าอื่นๆ ได้
อย่างไรก็ดี หนึ่งในหัวข้อที่หลายพรรคการเมืองยกขึ้นมาหาเสียงช่วงเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ย่อมหนีไม่พ้นการผลักดันให้ผู้ให้บริการอย่าง Grab กลายเป็นบริการที่ถูกกฎหมายเสียที เพราะที่ผ่านมาเรามักจะพบประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ให้บริการแท็กซี่และ Grab อยู่เสมอ
ต่อกรณีนี้ ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ระบุว่า ยังไม่เห็นฝ่ายรัฐบาลติดต่อมา ซึ่งตอนนี้กำลังรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลที่คาดว่าจะได้เห็นในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นต้องดูว่าเรื่องผลักดัน Grab เป็นประเด็นที่อยู่ในลำดับไหนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ธรินทร์ย้ำว่า Grab พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลทั้งกรมขนส่งทางบก หรือกระทรวงคมนาคม เพราะอยากผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สำเร็จภายในปีนี้ โดยเชื่อว่าจะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งประชาชน คนขับ รวมไปถึงนักท่องเที่ยว
“กรณีที่แท็กซี่ออกมาเคลื่อนไหว Grab ไม่สามารถไปบังคับอะไรได้ ทางเดียวที่ทำได้คือ การให้ข้อมูล ส่วนเรื่องนำรถป้ายดำมาวิ่งให้บริการก็ต้องให้ทุกฝ่ายมาหาทางออกร่วมกัน ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาคุยกัน และหวังว่าจะออกมาในทิศทางที่ดี”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
