×

พิชิตปรับโฉม​ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ เป็น ‘ทำเนียบช่วยได้’ หวังยกระดับแข่งเอกชน ยืนยันไม่คิดลบภาพ พล.อ. ประยุทธ์

โดย THE STANDARD TEAM
08.05.2024
  • LOADING...
ทำเนียบช่วยได้

วันนี้ (8 พฤษภาคม) พิชิต​ ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล ฝั่ง ก.พ. หลังเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล พร้อมทั้งได้มีการประชุมร่วมกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

 

โดยพิชิตกล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้ามากำกับ แต่เข้ามาเสมือนเป็นเพื่อน และสิ่งที่พูดไม่ใช่เรื่องตำหนิ​ เพราะที่ผ่านมาทำดีอยู่แล้ว​ แต่จะมาทำให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลเป็น​ ‘ทำเนียบช่วยได้’ และให้เป็นศูนย์รับข้อมูลการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทุกประเภท​ที่พัฒนาขึ้น ทั้งเว็บพนันออนไลน์และสื่อโซเชียลต่างๆ ที่หลอกลวง​ 

 

พิชิตกล่าวอีกว่า ในวันนี้จะมีการวางแผนเร่งแก้ไขปัญหาฉุกเฉินก่อน แม้ว่าหลายเรื่องจะเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชน แต่ก็จะหาทางแก้ไขตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และจะมีการแถลงความคืบหน้าภายใน 30 วัน 

 

พิชิตกล่าวว่า ขอยืนยันว่าส่วนตัวมุ่งมั่นตั้งใจจะมาทำหน้าที่นี้ แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ภายในปีนี้ แต่ก็ต้องรู้ว่าติดขัดตรงไหน เพื่อแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีไปประสานต่อหน่วยงานของรัฐ จึงขออนุญาตทำหน้าที่เหมือนบุรุษไปรษณีย์ที่ทำหน้าที่ให้ลุล่วง ให้เกิดความสุข

 

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพิชิตโดยตรงถึง 3 กรณี จิ๋มและดีชา อายุ 64 ปี ที่ขอใช้ช่วยเหลือหลังถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่ดินจำนวน 27 ไร่ ในอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งอาศัยและเข้าทำประโยชน์ตั้งแต่ปี 2529 กระทั่งฝ่ายโจทก์มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ ยื่นขอเอกสารกับ ส.ป.ก. และดำเนินการฟ้องร้องตนฐานบุกรุก ทำให้ไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินได้ 

 

ทั้งนี้ เคยเดินทางมายื่นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลถึง 8 ครั้ง แต่ก็ยังไม่คืบหน้า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 จึงอยากขอให้ช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ไม่สามารถทำอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเองได้ พร้อมกับก้มลงไหว้พิชิต เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร พิชิตจึงก้มลงกอดชาวบ้านที่มาร้องเรียน พร้อมรับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือ

 

จากนั้นพิชิตให้สัมภาษณ์ถึงการที่จะปรับโฉมศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล โดยเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ทำเนียบช่วยได้’ ว่า เป็นการลบภาพของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปหรือไม่ว่า ชื่อที่ตนตั้งขึ้นมานั้นมาจากใจ มาจากความรู้สึก ไม่ได้มีเรื่องการเมืองใดๆ เพราะทำเนียบต้องช่วยได้ เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายหลายอย่าง ตรงนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพที่จะช่วยกันทำงานให้กับรัฐบาล 

 

พิชิตกล่าวอีกว่า ตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีถือเป็นมือไม้ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาสังคมทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่กำลังระบาด ที่นายกรัฐมนตรีได้ลงไปกำชับและขันน็อต รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ ตนมองว่าพอมาอยู่ในจุดนี้ก็ทำอะไรได้อย่างจริงจัง เข้มข้น แข็งแรง เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ตนยินดีที่จะทำ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของการเมือง เพราะคำว่า ‘ทำเนียบช่วยได้’ เป็นเรื่องที่ตนคิดมาจากหัวใจของตนเอง 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนก็ไปร้องเรียนกับผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย ในจุดนี้จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร พิชิตกล่าวว่า สิ่งที่ภาคเอกชนทำอยู่แล้วตนก็ขอให้กำลังใจ ถือเป็นเรื่องที่ดี เมื่อสักครู่ตนได้พูดคุยกับข้าราชการว่า เป็นเรื่องดีที่เขาช่วยตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ในภาครัฐเองก็ต้องทำงานแข่งกัน เพราะสุดท้ายผลประโยชน์ที่จะได้รับก็ตกอยู่ที่ประชาชน

 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ประชาชนที่ไปร้องเรียนกับคนมีชื่อเสียงนั้นมองว่าเป็นการทำงานได้รวดเร็วกว่าและไม่มีขั้นตอนเยอะเหมือนกับศูนย์รับเรื่องราวของรัฐบาลนั้น พิชิตกล่าวว่า เรื่องนี้ตนได้หารือกับรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องระบบราชการบางอย่างติดขัดระเบียบ เพราะทุกอย่างต้องใช้อำนาจตามกรอบของกฎหมาย

 

เมื่อถามถึงการส่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานของแต่ละกระทรวงมาประจำที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ แต่ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการนั้น พิชิตกล่าวว่า ตนพอทราบปัญหาเรื่องนี้ แต่ตนจะมีวิธีการใหม่ซึ่งได้คิดวิธีไว้แล้ว และวันนี้ตนมีจิตใจมุ่งมั่นทำงาน แต่จะทำอย่างไรภายใน 30 วันให้สื่อมวลชนและประชาชนได้เห็นเป็นรูปธรรม 

 

โดยจะมีขั้นตอน ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมทั้งจะจัดตั้งโฆษกของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฯ เพื่อสื่อสารกับสื่อมวลชนและประชาชนว่าเราได้รับเรื่องร้องทุกข์อะไรไป ถึงแม้จะแก้ไขไม่ได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันนี้เดือนนี้ ปีนี้ แต่ต้องรู้ว่าปลายทางติดขัดอะไร และจะนำปัญหาที่ติดขัดเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประสานสั่งการไปยังทุกหน่วยงานของภาครัฐ ตนขอเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วง เพื่อให้เกิดความสุขของประชาชน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X