(29 กุมภาพันธ์ 2563) ที่หน้าตึกพญาไท พลาซ่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดกิจกรรม Next รปช. ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ ‘กฎหมู่ หรือ กฎหมาย’ โดยให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายมองว่าเริ่มตึงเครียด จากการเคลื่อนไหวนอกสภาของพรรคอนาคตใหม่ ภายหลังการยุบพรรค และการที่นักศึกษาออกมาร่วมแฟลชม็อบ ว่าเข้าใจว่าเป็นแผนการที่พรรคอนาคตใหม่ต้องเดิน ซึ่งตนเคยพูดหลายครั้งถึงฮ่องกงโมเดล ซึ่งสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ทำการเคลื่อนไหวคล้ายฮ่องกงโมเดล 5 ขั้นตอน ได้แก่
1.การปลุกระดมประชาชนโดยพุ่งเป้าไปที่นักศึกษา
2.การมีเงื่อนไขคำตัดสินศาล
3.นำมาสู่การจัดแฟลชม็อบที่น่าเป็นห่วง
4.เมื่อมีการชุมนุมมีม็อบเกิดขึ้นห่วงความรุนแรง
และ 5.เมื่อมีม็อบเกิดขึ้นแล้วก็ห่วงว่าจะเกิดความรุนแรง เพราะฮ่องกงโมเดลสุดท้ายนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งใครจะปฏิเสธได้ว่า ถ้ามีม็อบอาจจะมีกลุ่มคนที่ทำหน้าที่คล้ายชายชุดดำหรือมือที่สาม แต่อาจเลียนแบบหรือแฝงตัวกับนักศึกษาเพื่อก่อเหตุรุนแรง ทำให้เกิดความเกลียดชัง แล้วโบ้ยความผิดไปที่รัฐบาล เหมือนกับฮ่องกงที่เมื่อเกิดความรุนแรง ก็มีการชักชวนต่างชาติมาปลดปล่อย จึงห่วงจะเป็นการชักศึกเข้าบ้าน
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมของน้องๆ นักศึกษานั้น มองว่าสุดยอด และขอเชียร์เต็มที่ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความคิดเห็นด้านการเมือง ซึ่งการแสดงออกนี้จะทำให้สังคมตื่นตัวทางการเมืองขึ้น และเมื่อตื่นตัวก็เป็นการควบคุมนักการเมืองอีกทางหนึ่ง แต่ต้องระมัดระวังอย่าให้นักการเมืองครอบงำ และแทรกแซงฉวยประโยชน์ โดยเชื่อว่าพลังบริสุทธิ์ที่ออกมา แม้จะเป็นพลังต่อต้านรัฐบาลก็จะได้รับฟังความเห็น แต่ถ้ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องปลุกระดม จะอันตรายทันที ไม่ใช่พลังบริสุทธิ์ แต่จะกลายเป็นเครื่องมือนักการเมือง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าที่มีเฟกนิวส์ออกมาระบุว่าตนและสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ต่อต้านการเคลื่อนไหวของนักศึกษานั้น ไม่เป็นความจริง และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมายไปแล้ว
นพ.วรงค์ ยังกล่าวถึงการภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาว่า ถือว่ารัฐบาลชี้แจงได้ดี ที่ผ่านมาหากฝ่ายค้านทำหน้าที่อภิปรายได้ดี อาจถึงขั้นส่งผลให้นายกฯ หรือรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายติดคุกได้เลย แต่ครั้งนี้แทนที่รัฐบาลจะแย่ กลับมีเสียงในสภามากขึ้น ขณะที่ฝ่ายค้านกลับแตกกันเอง ถือว่าล้มเหลว ภาพออกมาจึงเป็นความแตกแยกของฝ่ายค้านเอง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์