นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ นายกแพทยสมาคมฯ หนึ่งในคณะที่ปรึกษารับมือโควิด-19 ของรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ในรายการ THE STANDARD Daily ระบุว่า ตามความเห็นส่วนตัว สถานการณ์ประเทศไทยอยู่ในระยะที่ 3 แล้ว เพราะมีผู้ป่วยหลายสิบรายต่อวัน และมีการติดต่อกันเองแล้ว ไม่ใช่เฉพาะติดมาจากต่างประเทศ
แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางที่ไทยดำเนินการอยู่เราถูกทางแน่นอน แต่ผู้คนของเราต้องมีวินัยที่จะอยู่ในบ้านตัวเอง พยายามเดินทางน้อยที่สุด ถ้าทำแบบนี้เราจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนการปิดประเทศเป็นวิธีการหนึ่ง แต่ต้องดูว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกดำเนินการไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่
ถ้าท่านปิดประเทศไทยคือกักตัวคนที่ติดเชื้อของเราไม่ให้ออกไปข้างนออก รวมถึงกันคนติดเชื้อจากภายนอกไม่ให้เข้ามา แต่ถ้าทุกประเทศทั่วโลกไม่ทำพร้อมกัน คำถามคือเราจะต้องปิดประเทศไปถึงเมื่อไร เพราะเมื่อการระบาดของเราจบลง พอเราเปิดประเทศผู้ติดเชื้อก็จะกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลานี้ คือการควบคุมการแพร่เชื้อในประเทศของเราให้ได้ โดยการทำ Social Distance ซึ่งคือพื้นฐานของการปิดประเทศ
ส่วนการรองรับผู้ป่วยในบ้านเราทำได้มากแค่ไหน กรณีสมมติมีผู้ป่วยติดเชื้อระดับ 1,000 คน จะรองรับไหวหรือไม่นั้น
นพ.อมร ยืนยันว่าการรับผู้ป่วยโควิด-19 เรามีการเตรียมการร่วมกันหมดทั้งภาครัฐและเอกชน
สมมติมีผู้ติดเชื้อ 1,000 คน จะมีประมาณ 80% ที่อาการไม่หนัก ส่วนที่อาการหนักจริงๆ จะแค่ 200-300 คน แต่ถ้าเราทำ Social Distance การแพร่เชื้อจะทยอยๆ เกิดขึ้นไม่พุ่งแบบก้าวกระโดด ซึ่งจะทำให้เราสามารถรองรับได้
“อยากให้ประชาชนทุกคนช่วยกันอยู่ที่บ้านเพื่อหมอ และหมอจะอยู่โรงพยาบาลเพื่อคุณ” นพ.อมร กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์