วันนี้ (18 มีนาคม) สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานและผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ สินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บริษัทห้างร้านเอกชน และผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์จากผลกระทบโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคประชาชน ทั้งด้านการผลิตและกระจายสินค้า และเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกจนนำไปสู่การกักตุนสินค้า
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยในเรื่องของหน้ากากอนามัยทางเลือกชนิดผ้า โดยคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะผลิตหน้ากากผ้าจำนวน 10 ล้านชิ้น ทั้งนี้ได้มีการประสานงานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งหน้ากากผ้าที่จะผลิตออกมานั้นจะต้องได้มาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเร่งรัดกระบวนการผลิตให้เร็วที่สุด เพื่อเตรียมแจกจ่ายแก่ประชาชนที่ขาดแคลน โดยจะทยอยแจกภายในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นกำหนดพื้นที่แจกหลักไว้ที่ร้านค้าสะดวกซื้อ สถานีน้ำมัน และสาขาของธนาคารพาณิชย์ แต่ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวยังต้องหารือช่องทางที่เหมาะสมก่อน
ทั้งนี้สมคิดยังได้กล่าวถึงประเด็นการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น ซึ่งมีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด
“กองทุนพยุงหุ้น อย่าเพิ่งพูดในรายละเอียด วันนี้ดัชนีหุ้นไทยก็ปรับขึ้น สอดคล้องกับดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะรับข่าวที่สหรัฐฯ ประกาศแจกเงินให้กับประชาชน” สมคิดกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (24 มีนาคม) กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการเพิ่มเติมในเรื่องการดูแลภาคประชาชน และสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยืนยันว่าภาครัฐได้คิดมาตรการล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งการหยิบมาใช้จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและช่วงเวลา
ด้าน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มั่นใจในศักยภาพในการรับมือกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งในด้านวัตถุดิบ กำลังการผลิต และการกระจายสินค้า ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 11 ของโลก และอันดับที่ 2 ของเอเชีย (รองจากประเทศจีน) อีกทั้งสินค้าที่อาจเป็นที่ต้องการของประชาชนในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กระดาษชำระ ซอสปรุงรส น้ำดื่ม และปลากระป๋อง ยังคงมีกำลังผลิตเพียงพอต่อการบริโภค และหากเกิดการขาดแคลนหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาดจริงๆ สามารถให้โรงงานเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า