รัฐบาลประกาศเตรียมจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรกในวันที่ 25-30 กันยายนนี้ แก่กลุ่มเปราะบางและคนพิการ 14.5 ล้านคน ด้านกระทรวงการคลังปรับประมาณการผลกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการนี้ โดยคาดว่าจะกระตุ้นได้เพียง 0.35% จากก่อนหน้านี้ที่เคยคาดไว้ที่ 1.3-1.8%
วันนี้ (17 กันยายน) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะแถลงรายละเอียดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงินผ่านกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาทว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบ 145,552.40 ล้านบาท โดยจะเริ่มจ่ายเงินให้กลุ่มเปราะบางและคนพิการ 14.5 ล้านคน ในวันที่ 25 กันยายนนี้เป็นวันแรก โดยให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ แบ่งเป็น 4 วัน คือ 25, 26, 27 และ 30 กันยายน 2567 ตามเลขท้ายบัตรประชาชน
โดยจำนวนกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนประมาณ 12.40 ล้านราย และผู้พิการจำนวนประมาณ 2.15 ล้านราย
“สถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบันเราเห็นความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชาชนมีปัญหาเรื่องหนี้สินเยอะ และเศรษฐกิจก็ยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามที่เราคิด ด้วยความเร่งด่วนจึงเป็นที่มาของงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ดังที่ทราบ” พิชัยกล่าว
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดว่า การมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 145,552.40 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.35% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ นอกจากนี้ เมื่อผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น จะช่วยให้เกิดการผลิต การค้าขาย การจ้างงาน และการคมนาคมขนส่งตามมา ซึ่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น จะเอื้อให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้เพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
ทำไมต้องแบ่งจ่าย 4 วัน
สำหรับเหตุผลที่ต้องแบ่งจ่ายเป็น 4 วัน พิชัยอธิบายว่า เนื่องมาจากขีดความสามารถของระบบการจ่าย ได้เต็มที่วันละ 4 ล้านคนเศษเท่านั้น ดังนี้
- 25 กันยายน (3.82 ล้านราย) ผู้มีสิทธิคือผู้พิการและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 0
- 26 กันยายน (4.51 ล้านราย) ผู้มีสิทธิคือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 1-3
- 27 กันยายน (4.51 ล้านราย) ผู้มีสิทธิคือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 4-7
- 30 กันยายน (2.26 ล้านราย) ผู้มีสิทธิคือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 8-9
เตือน ผู้มีสิทธิเฟสแรกต้องผูกพร้อมเพย์ก่อน 25 กันยายน!
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำหรับกรณีผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนของกลุ่มเปราะบาง แนะนำให้ดำเนินการก่อนวันที่ 25 กันยายน
แต่หากดำเนินการไม่ทัน ตกหล่น หรือบัญชีมีปัญหาในวันที่มีการโอน จะโอนซ้ำ (Retry) อีก 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 22 ตุลาคม, 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม
โดยเมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
ย้ำ กลุ่มผู้พิการไม่มีเกณฑ์รายได้-อายุ ไม่ต้องผูกพร้อมเพย์
จุลพันธ์ยืนยันว่ากลุ่มคนพิการที่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้วจะได้รับเงินงวดแรกทุกคน โดยไม่มีเกณฑ์อายุและรายได้ และไม่ต้องผูกพร้อมเพย์ เนื่องจากมีข้อมูลในระบบอยู่แล้ว
วันลงทะเบียนกลุ่มผู้ ‘ไม่มี’ สมาร์ทโฟนรอประกาศอีกที
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนสาเหตุที่ต้องเลื่อนวันลงทะเบียนออกไปเนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความซ้ำซ้อน ซึ่งปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะเกิดความซ้ำซ้อนสูงมาก สำหรับวันลงทะเบียนขอให้รอประกาศอีกที
กระตุ้น GDP ได้ 0.35% แต่เพิ่มคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง
พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการคำนวณแล้ว โครงการดิจิทัลวอลเล็ต (แบบ Stand Alone) จะมีผลต่อเศรษฐกิจประมาณ 0.35% เนื่องจากว่ากลุ่มคนที่ได้รับเงินในรอบนี้เป็นผู้ที่มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบางและผู้พิการ ซึ่งจากการวิเคราะห์แล้ว จะเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นและมีความสามารถในการใช้จ่ายสูง ทำให้เม็ดเงินที่ลงไปคาดว่าจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างเร็วแล้วก็ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ผลต่อเศรษฐกิจที่ 0.35% คือตัวเลขที่เป็น GDP แต่ตนเองมองว่ายังมีผลที่มันได้อยู่ใน GDP ก็คือคุณภาพชีวิตของผู้ที่ได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ การบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย คนกลุ่มเปราะบางที่มีความต้านทานต่อภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีหรือต่ำมาก เพราะฉะนั้นเงินส่วนนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น
ทั้งนี้ ประมาณการผลต่อเศรษฐกิจดังกล่าวนับว่าถูกปรับลดลงจาก 1.3-1.8% ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินก่อนหน้านี้
โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เผ่าภูมิเคยยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคาดว่าจะกระตุ้น GDP ได้ 1.3-1.8% จากการประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการราว 40 กว่าล้านคน
จับทิศทางดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2
พิชัยระบุว่า สำหรับดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 คงจะเกิด เนื่องจากคนลงทะเบียนมาแล้ว และเงินหรืองบประมาณก็มีแล้ว แต่หลังจากวันนี้จะมีตั้งคณะกรรมการมานั่งร่วมดูอย่างรอบคอบอีกทีเกี่ยวกับการจ่ายอย่างไร จ่ายเมื่อไร ด้วยวิธีไหน เป็นต้น
จุลพันธ์ระบุว่า ในที่ประชุม ครม. วันนี้ ไม่ได้มีการพูดถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 แต่พูดถึงเฉพาะสิ่งที่นำเข้าสู่ ครม. คือการกระตุ้นเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบาง และมีการพูดถึงโครงการในอนาคตบ้าง อย่างเช่นกลุ่มที่ควรจะต้องพิจารณาเป็นกลุ่มถัดไป แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดในเรื่องของโครงการขั้นถัดไป
สำหรับแอปพลิเคชันที่จะใช้สำหรับการใช้ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 ยังไม่เสร็จและกำลังดำเนินการ ซึ่งมีกรอบระยะเวลาที่เห็นภาพแล้ว สุดท้ายจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นคณะกรรมการในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ตด้วย