วันนี้ (26 พฤศจิกายน) อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการขจัดปัญหาปลาหมอคางดำ ล่าสุดกรมประมงลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนิน ‘โครงการแก้ไขปัญหาเพื่อขจัดภัยจากการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ระยะเร่งด่วน’ ระหว่างการยางแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมวิชาการเกษตร ร่วมดำเนินงานแบบบูรณาการ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ ด้านวิชาการ และการปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการนำปลาหมอคางดำที่จับออกจากธรรมชาติ
โดยนำไปกำจัดด้วยกรรมวิธีที่เหมาะสมและอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้ เพื่อรองรับและสนับสนุนภารกิจต่างๆ โดยต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หลักเกณฑ์การปฏิบัติของทุกหน่วยงาน
อนุกูลกล่าวว่า การลงนามดังกล่าวเป็นการบูรณาการความร่วมมือแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำ Big Cleaning ครั้งใหญ่ โดยมุ่งขจัดปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำให้หมดไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร ดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่ง การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ตามวาระแห่งชาติในการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567-2570
สำหรับงบประมาณในการบริหารจัดการนั้น มาจากเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงินงบประมาณ 60 ล้านบาท มีเป้าหมายกำจัดปลาหมอคางดำจำนวน 3,000,000 กิโลกรัม ซึ่งสอดคล้องตามพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. 2554 มาตรา 7 (4) การดำเนินการที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อป้องกันและขจัดภัยอันจะเป็นผลเสียหายแก่เกษตรกร
อนุกูลกล่าวอีกว่า ยังมีการดำเนินการโดยใช้วิธีธรรมชาติ คือการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดำเนินการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในระยะยาว เช่น การเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n เพื่อให้เกิดหมันในปลาหมอคางดำ และกรอบแนวทางงานวิจัยอื่นๆ ซึ่งกรอบงานวิจัยเหล่านี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของบประมาณจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.
นอกจากนี้ยังมีแผนระยะยาวสำหรับฟื้นฟูระบบนิเวศ ฟื้นฟูแหล่งอาศัย ปล่อยสัตว์น้ำประจำถิ่น เพื่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศอีกด้วย
“จากแนวทางการปฏิบัติงานและความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเป็นรูปธรรม จะสามารถช่วยบรรเทาให้วิกฤตการระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทยดีขึ้น และจะขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศของแหล่งน้ำธรรมชาติของไทยได้อย่างยั่งยืน” อนุกูลกล่าว