วันนี้ (21 ธันวาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายขอบเขตข้อบ่งใช้ของวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty Vaccine) ของบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด จากเดิมที่ให้มีการฉีดได้ในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเท่านั้น ทั้งนี้ การฉีดวัคซีน Pfizer ในเด็กอายุ 5-11 ปี จะฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อ และลดปริมาณวัคซีนลงเหลือ 10 ไมโครกรัม หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนที่ฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยจะมีการเว้นระยะห่าง 21 วันจากเข็มที่ 1 เพื่อฉีดเข็มที่ 2
ในส่วนจำนวนนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีน นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 19 ธันวาคม 2564 เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว จำนวน 3,311,008 คน และวัคซีนเข็ม 2 จำนวน 3,059,855 คน ภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิดสะสมกว่า 100 ล้านโดสแล้ว ตามเป้าหมายการฉีดวัคซีนภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมแผนบริการวัคซีนโควิดจำนวน 120 ล้านโดสของประเทศไทย ในปี 2565 ไว้พร้อมแล้ว โดยจะมีวัคซีน Pfizer จำนวน 10 ล้านโดส สำหรับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เป้าหมาย 5 ล้านคน ซึ่งการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองต้องให้การยินยอม ทั้งนี้ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพคนไทยทุกคนเช่นเดียวกัน
