แม้ภาพรวมการลงทุนและเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะผันผวนอย่างหนัก ซึ่งส่วนมากจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ จากแรงกดดันของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่สำหรับ ‘หุ้นไอพีโอ’ ในปีนี้ ดูเหมือนภาพจะค่อนข้างแตกต่างกันออกไป
ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า จำนวนการค้นหาคำว่า ‘IPOs’ บน Google ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างมากจนทำจุดสูงสุดในรอบอย่างน้อย 16 ปี ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างเข้าลงทุนใน ETF ที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง: Bloomberg, Google Trends
Jay Ritter อาจารย์ภาควิชาการเงินของ University of Florida Warrington College of Business ระบุว่า ผลตอบแทนของหุ้นไอพีโอที่เข้าเทรดวันแรกในปีนี้ โดยเฉลี่ยสูงถึง 41%
จากข้อมูลของ PrivCo และ Bloomberg ยังระบุอีกว่า ท่ามกลาง 50 บริษัทซึ่งเข้าจดทะเบียนในปีนี้ มูลค่าของบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึง 660% ในวันแรกที่เข้าเทรด เทียบจากมูลค่าของบริษัทจากการระดมทุนรอบสุดท้ายก่อนแปลงเป็นบริษัทมหาชน
เหตุผลที่ว่าเหตุใดบริษัทลงทุน (Venture Capital Firms) และนักลงทุนบุคคล (Private Equity Investors) อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างไปในทุกวันนี้ รวมถึงวาณิชธนกิจผู้กำหนดราคาหุ้นไอพีโอด้วย หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญคือ ‘Liquidity Premium’ หรือด้วยสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูง ทำให้การเข้าซื้อและขายหุ้นที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนนั้นทำได้โดยง่าย
“นักลงทุนบางรายกำลังตัดสินใจที่จะถือหุ้นต่อไปด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน พยายามที่จะประเมินว่าหุ้นไอพีโอน้องใหม่อย่าง Airbnb มีมูลค่าเหมาะสมเท่าใด ในขณะที่บางรายใช้กลยุทธ์โมเมนตัม และอาจจะคิดว่าหุ้นมันอาจจะแพงเกินไป แต่ก็เชื่อในทฤษฎี Great Fool’s Theory ท้ายที่สุดแล้วราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นต่อไปได้ แล้วค่อยไปรอขายหุ้นให้กับคนที่โง่กว่า (A Greater Fool)” Ritter กล่าว
Ritter เปิดเผยอีกว่า 80% ของหุ้นไอพีโอสหรัฐฯ ที่เข้าจดทะเบียนในปีนี้ เป็นบริษัทที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วง 12 เดือนก่อนหน้าที่จะเข้าจดทะเบียน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นแต่ปี 2000 และ 2018 ซึ่งเป็นสองปีที่สัดส่วนของหุ้นไอพีโอที่มีผลขาดทุนเข้าจดทะเบียน 81%
ตัดภาพมาที่กระแสหุ้นไอพีโอของไทย จากหุ้นที่เข้าจดทะเบียนทั้งใน SET และ mai ไปแล้วทั้งหมด 24 บริษัทในปีนี้ ก่อนที่จะมีอีก 2 บริษัทเข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 24 และ 25 ธันวาคมนี้ คือ บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX และ บมจ.ไซมิส แอสเสท หรือ SA ตามลำดับ
สำหรับหุ้นไอพีโอ 24 บริษัทซึ่งเข้าจดทะเบียนก่อนหน้านี้ มี 16 บริษัทที่ราคาหุ้นสามารถปิดสูงกว่าราคาไอพีโอได้ โดยผลตอบแทนเฉลี่ยจากการเข้าซื้อขายวันแรกอยู่ที่ราว 48% ซึ่งไอพีโอตัวล่าสุดคือ บมจ.อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (IND) เข้าซื้อขายวันแรกวันนี้ (22 ธันวาคม) ปิดครึ่งวันแรกปรับตัวขึ้นได้ 154.5% ขณะที่เทรนด์การค้นหาคำว่า IPOs ในไทย ก็พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 15 ปี เช่นกัน
อ้างอิง: Google Trends
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- Google Trends