Google เสิร์ชเอ็นจินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา กำลังวางแผนอนุญาตให้มีการขายข้อมูลแผนที่ชุดใหม่แก่บริษัทต่างๆ เพื่อใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน โดยหวังว่าจะสร้างรายได้สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ในปีแรก
ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนที่จะขายการเข้าถึง API ใหม่ (อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน) พร้อมข้อมูลพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงาน รวมถึงคุณภาพอากาศ ขณะที่ข้อเสนอใหม่ยังครอบคลุมถึง Solar API ซึ่งสามารถใช้งานได้โดยผู้ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น Sunrun และ Tesla Energy และบริษัทออกแบบพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น Aurora Solar
นอกจากนี้ Google ยังมองเห็นโอกาสของลูกค้าในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เช่น Zillow, Redfin, บริษัทด้านการบริการ เช่น Marriott Bonvoy และบริษัทสาธารณูปโภค เช่น PG&E
ทั้งนี้ ข้อมูลบางส่วนจาก Solar API จะมาจากโครงการนำร่องที่มุ่งเน้นผู้บริโภคเป็นหลัก อย่าง Project Sunroof ซึ่งเป็นเครื่องคำนวณการประหยัดพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โปรแกรมนี้ช่วยให้ผู้ใช้ป้อนที่อยู่ของตนและรับค่าพลังงานแสงอาทิตย์โดยประมาณ เช่น การประหยัดค่าไฟฟ้า และขนาดของการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีการสร้างแบบจำลอง 3 มิติของหลังคาอาคารและต้นไม้ใกล้เคียงตามข้อมูลของ Google Maps
Google ยังวางแผนที่จะขายการเข้าถึง API ของข้อมูลอาคารแต่ละหลัง รวมถึงข้อมูลที่รวบรวมสำหรับอาคารทั้งหมดในเมืองใดเมืองหนึ่ง ตามเอกสารระบุ บริษัทกล่าวว่ามีข้อมูลอาคารมากกว่า 350 ล้านหลัง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากอาคาร 60 ล้านหลังที่อ้างถึงในโครงการซันรูฟปี 2017 โดยเอกสารภายในฉบับหนึ่งประมาณการว่า Solar API ของบริษัทจะสร้างรายได้ระหว่าง 90-100 ล้านดอลลาร์ในปีแรกหลังการเปิดตัว นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ Google Cloud อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังวางแผนที่จะเปิดตัว Air Quality API ที่จะให้ลูกค้าขอข้อมูลคุณภาพอากาศได้ เช่น สารมลพิษ และคำแนะนำด้านสุขภาพสำหรับสถานที่เฉพาะ นอกจากนี้ยังจะรวมข้อมูลแผนที่ความร้อนแบบดิจิทัล และข้อมูลคุณภาพอากาศรายชั่วโมง รวมถึงประวัติคุณภาพอากาศสูงสุด 30 วัน
แนวโน้มช่องทางรายได้ใหม่ของ Google เกิดขึ้นเมื่อบริษัทพยายามสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์แผนที่ เนื่องจากเผชิญกับแรงกดดันในการสร้างรายได้ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็ยังลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Generative AI และความยั่งยืน ซึ่งเป็นตลาดที่หวังว่าจะใช้ประโยชน์จาก Solar API
ปัจจุบัน Google ออกใบอนุญาต Mapping API สำหรับการนำทางให้บริษัทต่างๆ เช่น Uber ซึ่งกล่าวในปี 2019 ว่าได้จ่ายเงินให้ Google 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รายได้จาก Maps API ไปสู่กลุ่มระบบคลาวด์ของบริษัท ซึ่งในที่สุดก็กลับมาทำกำไรได้ในไตรมาสแรก แต่ก็มีเส้นทางที่ยากลำบากในการพยายามแข่งขันกับผู้นำตลาดอย่าง Amazon และ Microsoft
ทั้งนี้ Google ไม่ได้แจกแจงรายได้ของธุรกิจแผนที่ (Maps) ซึ่งในอดีตเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้น้อยที่สุดของ Google
ด้าน Brian Nowak นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley กล่าวกับ CNBC ในปี 2021 ว่า Google Maps จะได้รับรายได้ 1.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2023 เนื่องจากผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวใหม่และบริการปักหมุดโปรโมตเริ่มเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจโฆษณา
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของ Google ในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์การทำแผนที่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ CNBC พบว่า Google กำลังเลิกจ้างพนักงานใน Waze แอปรายงานสภาพการจราจร ซึ่ง Google เข้าซื้อกิจการในปี 2013 และรวมเข้ากับทีมงาน Google Maps
อ้างอิง: