8 กุมภาพันธ์ 2005 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว คือวันที่ Google เร่ิมเปิดให้บริการแผนที่ออนไลน์ ‘Google Maps’ เป็นครั้งแรก ก่อนที่ในเวลาต่อมา มันจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การช่วยนำทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการช่วยให้ชีวิตของผู้ใช้งานง่ายและ ‘สะดวกสบาย’ มากขึ้น
ทั้งเป็นตัวช่วยวางแผนการเดินทาง การสำรวจสถานที่ต่างๆ ผ่าน Street View การเป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนบริการในกลุ่ม Ride-Sharing ธุรกิจส่งอาหาร ช่วยให้ค้นพบร้านอาหารของผู้ประกอบการ SMEs ได้ง่ายขึ้น หรือแม้แต่การช่วยให้เกมแบบ AR เกิดขึ้นได้จริง
ปัจจุบัน Google Maps ให้บริการมาเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว พวกเขาจึงถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนโลโก้โฉมใหม่ โดยนำหมุดปักจุดหมายปลายทางหลากสี (แดง, ฟ้า, เหลือง และเขียว) ซึ่งเป็นสีประจำองค์กรของ Google มาผสมรวมกันอยู่ในหมุดอันเดียว ทดแทนหมุดสีแดงอันเดิม
และยังเปลี่ยนหน้าตาแอปฯ แบบใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มแถบเมนูด้านล่างหน้าในอินเทอร์เฟซตัวแอปฯ ขึ้นมาเป็น 5 แถบ (ตัดแถบเมนู For You ออกไป) ได้แก่
- Explore – สำรวจร้านอาหาร หรือร้านที่น่าสนใจที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง
- Commute – หาข้อมูลเส้นทางการเดินทางไป-กลับสถานที่ประจำที่เราเดินทางเป็นประจำด้วยเส้นทางที่ดีที่สุด
- Saved – หาสถานที่ประจำที่เรากดบันทึกไว้
- Contribute – เปิดให้ผู้ใช้งานเข้าไปมีส่วนร่วมในการร่วมรีวิวสถานที่ ให้ข้อมูลสถานที่ เส้นทางการเดินทางที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
- Updates – แนะนำสถานที่ยอดนิยมที่มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก หรือสถานที่ที่เพิ่งเปิดใหม่
สำหรับฟีเจอร์ที่ทาง Google ได้อัปเดตเพิ่มขึ้นมาให้กับ Google Maps โฉมใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ 1. Transit Crowdedness Predictions ตัวช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลรายละเอียด ความปลอดภัย ความหนาแน่นของตัวพาหนะโดยสารแบบสาธารณะได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเดินทางได้แม่นยำขึ้น (ก่อนหน้านี้เริ่มให้บริการแบบทดสอบในญี่ปุ่นไปแล้ว)
และ 2. เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในโหมดนำทาง Live View ให้ครอบคลุมและช่วยให้การเดินทางแบบ AR ง่ายกว่าที่เคย เช่น การแสดงหมุดปลายทางพร้อมระยะทางถึงจุดหมายขึ้นมาบนจอ AR (ปัจจุบันยังเป็น Beta Version อยู่) ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ทั้งหมดจะเริ่มให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้พร้อมใช้กันในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป
เจน ฟิทซ์แพทริก (Jen Fitzpatrick) รองประธานอาวุโสของ Google Maps ให้ข้อมูลว่า เดิมที Google Maps เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ของการเป็นแผนที่ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ไม่หลงทาง ซึ่งจากเดิมที่ Google Maps เคยอยู่ในรูปแบบการใช้งานที่ต้องพิมพ์เป็นกระดาษออกมา ปัจจุบันได้วิวัฒนาการตัวเองเป็นแผนที่ดิจิทัล สอดรับกับพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป และสร้างประโยชน์ที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดแค่ ‘การเดินทาง’ เท่านั้น
ภารกิจสำคัญของ Google Maps ที่เจนยืนยันว่าทีมของเธอให้ความสำคัญมากๆ คือการช่วยให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ บนโลกใบนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ปราศจากอุปสรรคปัญหา สามารถสำรวจสถานที่ที่น่าสนใจ สิ่งต่างๆ หรือช่วยให้ทุกอย่างในชีวิตประจำวันของผู้คนราบรื่น ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อัปเดตตลอดเวลา
ตัวอย่างเช่น การเพิ่มการนำทางในโหมด ‘จักรยานยนต์’ เข้ามาให้กับผู้ใช้งานในฝั่งอาเซียนที่นิยมเดินทางด้วยจักรยานยนต์ (รวมถึงประเทศไทย) โดยสิ่งที่ทีม Google Maps จะให้ความสำคัญและลงทุนพัฒนาต่อจากนี้คือการทำให้ ‘Real Time Traffic’ หรือคาดการณ์ระยะเวลาการเดินทางให้แม่นยำและฉลาดขึ้นกว่าเดิม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า