วันนี้ (30 กันยายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ Ruth Porat ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท Alphabet และ Google เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย เพื่อหารือความคืบหน้าของโครงการการลงทุนของบริษัทในไทย และความร่วมมือเพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Leave No Thai Behind
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
Ruth Porat ประกาศลงทุนจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาทในไทย เพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Region คาดว่าจะช่วยสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง ในช่วงปี 2568-2572 และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 140,000 ล้านบาทภายในปี 2572 พร้อมยินดีกับนายกรัฐมนตรีในโอกาสรับตำแหน่ง และตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มาเยือนไทย ซึ่ง Googleถือเป็นพันธมิตรกับไทยมาอย่างยาวนาน
ด้านนายกรัฐมนตรีขอบคุณบริษัท Googleที่ไว้วางใจในศักยภาพของไทย และเชื่อมั่นว่าการหารือในวันนี้จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับบริษัทให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือในระยะยาว และหาแนวทางเพื่อให้มีความคืบหน้าและเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย Cloud First Policy ของรัฐบาล มุ่งเน้นการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและการบริการของภาครัฐแก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยี AI
นายกรัฐมนตรียังให้ความมั่นใจแก่บริษัทถึงความต่อเนื่องด้านนโยบายและการดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง
ย้ำ ไทยมีศักยภาพ-ต้องการเทคโนโลยีต่อเนื่อง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองให้แก่ Ruth Porat และคณะ พร้อมระบุว่า Googleเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ของ Googleอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน เช่น Google Search, Google Maps, Gmail, YouTube และ Google Cloud
โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 เศรษฐาผลักดันให้เกิดการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัท Googleกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทย และเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลด้วยการให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์ ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและทำให้เกิดงานในวันนี้ขึ้น
นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของไทย โดยรัฐบาลมุ่งเสริมศักยภาพด้านดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาตนเอง ประสิทธิภาพการทำงาน และนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยลดความไม่เท่าเทียมและสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับทุกคน
นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงศักยภาพของไทย ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ยืดหยุ่น และระบบสาธารณูปโภคที่มีเสถียรภาพ ควบคู่กับการรักษาความเป็นกลางทางเทคโนโลยี รวมถึงความต้องการด้านดิจิทัลของไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการมีเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุม และมีประชากรที่ใช้งานดิจิทัลจำนวนมาก
ผลักดันพลังงานสะอาด-ปรับปรุงกฎหมายให้ได้มาตรฐานสากล
รัฐบาลจะเดินหน้าขยายโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศทางดิจิทัลและสร้างกลไกด้านพลังงานสะอาด เช่น การทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct PPA) และการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากขึ้น รวมถึงปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
นายกรัฐมนตรียังยินดีที่บริษัท Googleได้ร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำรวจการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) แห่งแรกในไทย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Googleและความพร้อมของไทยทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและแรงงานที่มีทักษะ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนให้ Googleร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในไทย เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของแรงงานในอนาคต และเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่รุ่งเรืองของ Googleเพื่อส่งเสริมการเติบโตของคนไทย และธุรกิจทั้งในประเทศและภายในภูมิภาคอาเซียน