ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google จำต้องจ่ายเงินมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ให้กับสหภาพยุโรป หลังจากที่ผู้พิพากษาปฏิเสธคำอุทธรณ์ของบริษัทต่อค่าปรับต่อต้านการผูกขาดในปี 2018
โดย Google ถูกปรับจากหน่วยงานเฝ้าระวังของยุโรป ฐานใช้อำนาจของตนเองในตลาดมือถือ Android ในทางที่ผิด เพื่อทำให้แอปและบริการของ Google ได้รับความนิยมมากขึ้น และได้สั่งปรับบริษัท 3 ครั้ง ใน 3 ปี ครั้งแรกในปี 2017 ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์ อีกครั้งในปี 2018 ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ และอีกครั้งในปี 2019 ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์
สหภาพยุโรปอ้างว่า Google มีพฤติกรรมในการต่อต้านการแข่งขันในตลาด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นหา การซื้อของ และ Android
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Google แพ้คดี! โดนคณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับ 9.1 หมื่นล้านบาท ‘ฐานผูกขาด’ หลังโปรโมตบริการช้อปปิ้งออนไลน์ของตัวเองไว้เป็นอันดับ 1 ในหน้าค้นหา
- Google และ Facebook กำลังตกที่นั่งลำบาก เมื่อ Apple เข้ามาแย่ง ‘เม็ดเงินโฆษณาออนไลน์’ มากขึ้น ผลดีจากอัปเดตความเป็นส่วนตัวของ
- ไม่ค่อยพึ่ง Google แล้ว ‘Lazada’ พบผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 57% ค้นหาสินค้าโดยตรงบน ‘แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ’
การตัดสินในวันนี้เกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีหลังบริษัทแพ้การยื่นอุทธรณ์ค่าปรับจากศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ โดยพบว่า Google ได้โปรโมตบริการขายของของตนเองเพื่อให้ผลการค้นหาอยู่เหนือคู่แข่ง
“ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปยืนยันตามการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการว่า Google นั้นใช้ข้อจำกัดที่ผิดกฎหมายกับผู้ผลิตอุปกรณ์มือถือ Android และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเจ้าอื่นเพื่ออยู่ในโซนที่โดดเด่นของเครื่องมือค้นหา” ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรปกล่าว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP