ราคาทองคำดีดตัวเพิ่มขึ้นราว 1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 กรกฎาคม) จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง ท่ามกลางความคาดหวังของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยข้อมูลสนับสนุนของความคาดหวังคือราคาสินค้าโดยรวมในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน
ราคาทองคำปิดตัวในสัปดาห์ที่ 2,386.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม และในส่วนของสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สำหรับส่งมอบในเดือนสิงหาคม ปิดที่ราคา 2,381 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์ตลาดของ Forex.com กล่าวกับ Reuters ว่า “ข้อมูลตัวเลขที่ออกมาของสหรัฐฯ กำลังส่งสัญญาณให้เห็นแรงกดดันเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวลง ซึ่งถือเป็นการเปิดทางให้ Fed ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้”
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้อมูลความคืบหน้าการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อจากสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ระดับ 2.5% ลดลงจากเดือนพฤษภาคมที่ 2.6% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ตรงกับการคาดการณ์ของหลายฝ่าย
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ความคาดหวังว่าผู้กำกับนโยบาย Fed จะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน และเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยก็จะลดลงเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน ความต้องการทองคำของผู้บริโภครายใหญ่อันดับสองของโลกอย่างอินเดีย ได้รับแรงหนุนจากการลดภาษีนำเข้าทองคำและแร่เงินในช่วงต้นสัปดาห์นี้
Everett Millman หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ Gainesville Coins กล่าวว่า “ความต้องการที่เพิ่มขึ้นที่เราเห็นจากอินเดียหรือจีน มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความต้องการโดยรวมในตลาด…ผมคิดว่าการลดภาษีในอินเดียจะยิ่งส่งผลในเชิงบวกต่อดีมานด์”
อ้างอิง: