เมื่อราคาทองคำเป็นขาขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี และในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาพุ่งสูงสุดที่บาท 30,500 บาท ส่วนหนึ่งเพราะความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังเพิ่มสูงขึ้น และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ราคาทองคำยิ่งปรับตัวเร็วและแรงขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ
แต่เมื่อราคาทองคำพุ่งสูงจนราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบจากต้นปี ส่งผลให้ความกังวลว่าราคาทองคำจะ ‘จบรอบ’ และราคาทองคำจะกลายเป็นขาลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับสถิติที่ผ่านมา ปัจจุบัน ณ วันนี้ (13 สิงหาคม เวลา 15.52 น.) ราคาทองคำแท่ง 96.5% ขายออกที่บาทละ 28,400 บาท เฉพาะตอนนี้ราคาผันผวนถึง 10 ครั้งด้วยกัน
ทางบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า วันนี้ราคาทองคำปรับลดลงแรงจากกระแสข่าวว่ารัสเซียพัฒนาวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ ส่งผลให้ Gold Spot เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนมาก โดยเห็นแรงขายอย่างต่อเนื่อง จนบางช่วงราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ มาสู่ระดับ 1,862 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ขณะเดียวกันราคาทองคำเมื่อวานนี้ยังปิดตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ซึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสในกรณีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (ช่วงเวลา 16.59 น. อยู่ที่ 1,930 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์) โดยจะเห็นกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ที่ราว 7.3 ตัน
ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮงมองว่า แนวต้านราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,950-1,980 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีแนวรับอยู่ที่ 1,860-1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ด้าน บล. โกลเบล็ก มองในทิศทางเดียวกันว่า ราคาทองคำลดลงมาจากข่าวการค้นพบวัคซีนของรัสเซีย ทำให้เห็นนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น และเทขายทองคำกดดันราคาทองคำให้ลดลง โดยมองว่าหากราคาทองคำพักฐานที่กรอบ 1,900-1,910 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ มีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลับไปเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจัยลบราคาทอง ได้แก่ สหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ขอสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชชนี PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ราคาทองเพิ่มขึ้นต้องติดตามกรณีคณะผู้แทนจีนเตือนสหภาพยุโรป (EU) หยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีนและฮ่องกง รวมถึงกรณีสหรัฐฯ จ่อสั่งแบน TikTok ห้ามโฆษณาในสหรัฐฯ และถูกถอดออกจากแอปสโตร์
อย่างไรก็ตาม บล. โกลเบล็กมองว่า ราคาทองคำแนวต้านอยู่ที่ 1,930-1,942 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับอยู่ที่ 1,900-1,910 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
สุดท้ายด้าน YLG Bullion International ระบุว่า แนวต้านทองคำอยู่ที่ 1,949-1,971 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,906-1,884 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนโดยซื้อขายเพื่อทำกำไรในระยะสั้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล