ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าทองคำกำลังอยู่ในเส้นทางขาขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ช่วยสนับสนุนบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยบางคนยังคาดว่าทองคำจะแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีหน้า
ตามข้อมูลจาก Refinitiv แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำสปอตได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ระหว่างวันที่ 2,072.5 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2020 ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนก็เปิดเผยมุมมองของตนกับ CNBC ว่าทองคำน่าจะก้าวข้ามระดับดังกล่าวและปรับตัวขึ้นไปไกลกว่านั้นได้
โดย Bart Melek กรรมการผู้จัดการ TD Securities และหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก กล่าวว่า ตนมองว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวเหนือ 2,100 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2023 และต้นปี 2024 เนื่องจากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) จะยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น
Melek กล่าวอีกว่า ตนมีความมั่นใจในทองคำ เนื่องจากเชื่อว่า Fed จะค่อยๆ ปรับนโยบายออกจากโหมดปัจจุบัน ตนเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นก่อนที่ Fed จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
นอกจากนี้ Melek ยังชี้ให้เห็นว่าทองคำให้ผลตอบแทนเหนือกว่าสินทรัพย์หลัก (Major Asset) ประเภทอื่นๆ ส่วนใหญ่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าทองคำสามารถต้านทานอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นได้ และมูลค่าของทองคำก็เป็นหลุมหลบภัยที่ปลอดภัยท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง
นักวิเคราะห์บางคนมีความเชื่อมั่นต่อทองคำเป็นพิเศษ โดยบางคนได้ตั้งเป้าหมายที่ 2,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งสูงกว่าระดับปัจจุบันมากกว่า 26%
David Neuhauser ผู้ก่อตั้ง Livermore Partners กล่าวว่า “เป้าหมายของผมคือ 2,500 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2024 ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่ากองทัพเศรษฐกิจถดถอย (Recessionary Forces) อาจเริ่มขึ้นในปลายปีนี้ และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2024” ดังนั้น “ปี 2024 จะเป็นช่วงเวลาที่เห็นทองคำพุ่งขึ้น และทำจุดสูงสุดใหม่และปรับตัวขึ้นต่อไป”
Neuhauser ยังกล่าวว่า เขาคาดว่าภาวะเงินฝืดจะยังคงมีอยู่ต่อไปในเศรษฐกิจโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือระหว่าง 3-5%
โดยทองคำก็มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และภาวะเงินฝืด เนื่องจากสถานะของทองคำในการรักษามูลค่า (Store of Value) ที่เชื่อถือได้ และมักถูกใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ
สอดคล้องกับ Randy Smallwood ซีอีโอของ Wheaton Precious Metals ที่กล่าวว่า “ผมค่อนข้างมั่นใจว่าภายในไม่กี่ปีเราจะได้เห็นทองคำที่มูลค่า 2,500 ดอลลาร์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม่ว่ารูปแบบใดก็ตามจะเป็นผลดีต่อทองคำ” พร้อมทั้งเสริมว่าเขาเห็นความอ่อนแอในเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ แล้ว
นอกจากนี้ ธนาคาร UOB ยังคาดการณ์ว่า “ราคาทองคำจะสร้างสถิติใหม่ภายในครึ่งหลังของปี 2024 โดยแรงผลักดันสำคัญในมุมมองเชิงบวกคือการคาดการณ์ที่ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดแล้ว เช่นเดียวกับการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังจะมาถึง”
Heng Koon How หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาด เศรษฐกิจโลก และการวิจัยตลาด จาก UOB คาดการณ์ว่าทองคำจะซื้อขายที่ระดับ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในไตรมาส 2 ของปี 2024
นอกจากนี้ Heng ยังชี้ให้เห็นว่าดีมานด์ทองคำก็ยังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการซื้อทองคำของธนาคารกลางที่ ‘แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง’ ควบคู่ไปกับความต้องการของผู้บริโภค
“เรายังเห็นการกลับมาของความต้องการเครื่องประดับทองจากจีนและอินเดีย เนื่องจากเศรษฐกิจทั้งสองประเทศมีเสถียรภาพและการใช้จ่ายกับค้าปลีกกลับมา” Heng กล่าว
อ้างอิง: